TrueID
TH
รีเซต
ผลการค้นหา “阿姆斯特丹大学 Sociological degree{官网:zjw211.com}-哪里买阿姆斯特丹大学 Sociological degree[办证网:zjw211.com]-防城港阿姆斯特丹大学 Sociological degree哪里做-哪里办阿姆斯特丹大学 Sociological degree9K” - ทรูไอดี
ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
อ่าน
Pre-degree ม.ราม
การเรียน Pre-degree คืออะไรรู้จัก Pre-degree ม.รามคำแหงโดยที่ระบบ Pre-degree เป็นการเรียนรายกระบวนวิชาเก็บหน่วยกิตที่ได้สะสมไว้เทียบโอน เมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ทำให้น้อง ๆ สามารถเรียนจบปริญญาตรีได้เร็วยิ่งขึ้น และในบทความนี้ แคมปัส-สตาร์ จะพาน้อง ๆ ทุกคนไปทำความรู้จักกับระบบ Pre-degree กันให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังรวมถึงเรื่องกำหนดการสอบ ค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการเรียน และข้อดีของการเรียน Pre-degree ที่จะช่วยทำให้เราสามารถพัฒนาตนเองได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยPre-degree คืออะไร?สำหรับการเรียนระบบ Pre-degree เป็นการเรียนปริญญาตรีล่วงหน้า โดยที่น้อง ๆ จะต้องใช้วุฒิการศึกษาชั้น ม.3 และจะต้องกำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.ปลาย ปวช. ปวส. หรือ กศน. จากนั้นเมื่อน้อง ๆ เรียนจบในระดับชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 ก็จะสามารถเทียบโอนหน่วยกิตที่สะสมเอาไว้ไปเรียนในภาคปกติของมหาวิทยาลัยได้ มหาวิทยาลัยรามคำแหงมีหลักสูตรที่เปิดสอนในระบบ Pre-degree ดังต่อไปนี้คณะนิติศาสตร์คณะบริหารธุรกิจคณะมนุษยศาสตร์คณะศึกษาศาสตร์คณะวิทยาศาสตร์คณะรัฐศาสตร์คณะเศรษฐศาสตร์คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์คณะสื่อสารมวลชน(ขอบคุณภาพจาก https://campus.campus-star.com/education/33544.html) เปิดรับสมัครเวลาสอบ ทางมหาวิทยาลัยรามคำแหงจะจัดการสอบหลังจากที่โรงเรียนปิดเทอมแล้ว โดยได้แบ่งออกเป็น 2 ภาคเรียน ได้แก่ภาคเรียนที่ 1 สอบประมาณเดือนตุลาคมภาคเรียนที่ 2 สอบประมาณเดือนมีนาคมเอกสารที่จะต้องนำมายื่นในวันสมัครหนังสือสำคัญแสดงคุณวุฒิสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3)สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 2 ฉบับสำเนาบัตรประชาขน หรือบัตรหน่วยงานราชการออกให้ จำนวน 3 ฉบับกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลง ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด ให้ถ่านสำเนา จำนวน 2 ฉบับใบสมัครและใบขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา (ม.ร.2.) พร้อมติดรูปถ่ายสีขนาด 2 นิ้ว จำนวน 1 รูปแผ่นระบายระเบียนประวัตินักศึกษา (ม.ร.25)**หมายเหตุ ไม่อนุญาตให้ใช้สำเนาหนังสือรับรองว่ากำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายมาสมัครค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการเรียนค่าสมัครเข้าศึกษา 500 บาทค่าขึ้นทะเบียนเข้าศึกษา 300 บาทค่าบัตรประจำตัวนักศึกษา 60 บาทค่าบำรุงมหาวิทยาลัย 300 บาทค่าลงทะเบียนเรียนหน่วยกิตละ 50 บาท (จำนวนเงินขึ้นอยู่กับหน่วยกิตที่ลงทะเบียน)วิธีการเรียนเรียนจากห้องเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงตำราอิเล็กทรอนิกส์ (e-Book)ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ (www.lib.ru.ac.th)ด้วยระบบบรรยายสดผ่านอินเทอร์เน็ต (Cyber Classroom)เรียนด้วยระบบ E-Learningเรียนด้วยระบบ Coures On Demandเรียนจาก DVD บันทึกคำบรรยายกระบวนวิชาเกณฑ์การให้คะแนนส่วนเกณฑ์การให้คะแนนของการเรียนการสอนในแบบ Pre-degree ส่วนใหญ่จะใช้เป็นคะแนนสอบ 100% โดยแบ่งเป็นเกรดเหมือนกับมหาวิทยาลัยทั่วไป แต่ในบางรายวิชาก็อาจจะมีการมอบหมายงานจากอาจารย์ผู้สอนให้ไปทำงานมาส่ง เพื่อทำการเก็บคะแนนจากงานอีกด้วย เนื่องจากคนที่สมัครเรียนกับมหาวิทยาลัยรามคำแหงสามารถเลือกได้ว่าจะเข้ามาเรียนหรือไม่เข้ามาเรียนก็ได้ แต่ต้องเข้ามาสอบให้ครบทุกวิชา และในปัจจุบันมหาวิทยาลัยรามคำแหงก็ได้ทำการเปิดการเรียนการสอนในวันเสาร์-อาทิตย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นน้อง ๆ จึงสามารถที่จะเลือกเรียนได้ว่าจะเรียนแบบไหน ตามที่เราสะดวกหรือว่าได้เลยข้อดีของการเรียน Pre-degreeทำให้น้อง ๆ จบปริญญาตรีเมื่ออายุยังน้อยและมีทางเลือกอีกมากมายในการศึกษาต่อ หรือเลือกที่จะประกอบอาชีพก็ได้ช่วยเสริมการเรียนในระดับ ม.ปลาย ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นช่วยให้รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ทำให้น้อง ๆ สามารถพัฒนาตัวเองได้มากยิ่งขึ้น และการเรียนในแบบ Pre-degree ยังช่วยทำให้น้อง ๆ เรียนเข้าใจมากยิ่งขึ้นในระดับ ม.ปลาย อีกด้วยการเรียน Pre-degree แบบออนไลน์ ทำให้น้อง ๆ มีอิสระในการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น เพราะสามารถที่จะย้อนฟังวิชาที่อาจารย์สอนซ้ำได้แบบอย่างรุ่นพี่จบ Pre-degree ประสบความสำเร็จในวิชาชีพ(ขอบคุณภาพจาก https://www.ru.ac.th/th/Predegree/index2) เปิดใจนักเรียน ม.ปลาย... ทำไมเรียน Pre-degree(ขอบคุณภาพจาก https://www.ru.ac.th/th/Predegree/index2)มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของลูกพ่อขุนไปด้วยกันนะ#พี่ที่แสนดีขอบคุณข้อมูล: https://campus.campus-star.com/education/63297.html
นกเค้าแมว • 27 พ.ค. 63
อ่าน
รีวิวหนังสือ สังคมวิทยา ความรู้ฉบับพกพา (Sociology)
เราเป็นสัตว์สังคมเหมือนกันหมดจริงหรือไม่ผมว่าทุกคนน่าจะเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “มนุษย์เป็นสัตว์สังคม" ซึ่งก็หมายถึง มนุษย์เราโดยธรรมชาติไม่สามารถที่จะอยู่ลำพังคนเดียวได้ มักจะอาศัยอยู่รวมๆ กันเป็นหมู่โดยมีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ภายใต้ระบบกฏเกณฑ์ โดยมี วัฒนธรรม ที่จะเป็นตัวแยกแยะระหว่างสัตว์สังคมมนุษย์ (Human Side) กับ สัตว์สังคมเดรัจฉาน (Animal Side) ซึ่งมิติของสัตว์สังคมทั่วไปน่าจะมีแค่นั้นตามธรรมชาติ แต่จริงๆ แล้วมนุษย์เรายังมีแยกแยะ (ชนชั้น) ทางสังคมขึ้นมาอีกมากมาย (อย่างเช่นหนังดังอย่าง ชนชั้นปรสิต) เราลองมามองย้อนความเป็นมนุษย์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ประเสริฐ แต่ก็ยังแอบเหยียดกันด้วยการใช้ชนชั้นทางสังคมเป็นกำแพงขวาง ผ่านงาานเขียนจากหนังสือเล่มนี้หนังสือ สังคมวิทยา ความรู้ฉบับพกพา (Sociology) สำนักพิมพ์ Open Worlds เขียนโดย สตีฟ บรูซ (ที่ไม่ใช่ดาราหนัง) แต่เป็นศาสตราจารย์ด้านสังคมวิทยา โดยมีผลงานทางด้านการศึกษาและงานวิจัยสังคมวิทยาจำนวนมาก โดยเฉพาะในประเด็นกระบวนการกลายเป็นโลกวิสัยทางของศาสนา จึงทำให้หนังสือเล่มนี้ จะว่าด้วยการแบ่งสังคมวิทยาที่ยังมีกลิ่นอายความความเชื่อของศาสนา อย่างที่ประเด็นที่ในหนังสือ หยิบยกขึ้นมาว่า ทำไมการแพร่ขยายของนิกายโปรเตสแตนต์ ถึงส่งผลต่อการเติบโตของทุนนิยมอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ? นอกจากนี้ ผู้เขียนยังต้องการสื่อให้เราเห็นถึง สาเหตุทางสังคม ที่ส่งผลต่อแบบแผนพฤติกรรมของมนุษย์ และยังปูทางให้เราได้เข้าใจแนวคิดของนักสังคมวิทยาคนสำคัญๆ ของโลก เช่น คาร์ล มาร์กซ์, มักซ์ เวเบอร์ เป็นต้นโดยเนื้อหาหลักของหนังสือเล่มนี้ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนแรกจะเป็นการแจกแจงที่มาของสังคมวิทยาโดยการพินิจพิเคราะห์ว่า คำกล่าวที่ว่าสังคมวิทยาเป็นวิทยาศาสตร์สังคมนั้น หมายความว่าอย่างไร ในส่วนที่สอง จะเป็นการนำเสนอถึงแนวความคิดเบื้องต้นของวิชานี้ และในส่วนสุดท้ายจะเป็นการสร้างความชัดเจนให้กับสาขานี้ ด้วยการหยิบยกสังคมวิทยาแบบที่ได้รับความนิยม แต่ไม่ใช่ของจริงสิ่งที่ชอบสำหรับหนังสือเล่มนี้ การรู้จักที่มาของสังคม เหมือนเราใช้กระจกส่องดูที่มาของตัวเอง และทำให้เกิดการตั้งคำถามที่ในตัวเองว่า แท้ที่สุดแล้ว ตัวเรานั้นเป็นเพียงผลผลิตของเงื่อนไขทางสังคมที่เราอยู่หรือเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตตัวเองกันแน่หนังสือ สังคมวิทยา ความรู้ฉบับพกพา (Sociology) แม้เล่มจะเล็ก แต่ก็บอกเลยว่าอัดแน่นไปด้วยทฤษฎีและแนวคิดทางด้านสังคมต่างๆ มากมาย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จึงทำให้เนื้อหา ไม่ใช่ว่าจะย่อยกันง่ายๆ ทั้งศัพท์และที่มาต่างๆ ล้วนมาจากความคิดที่ตกผลึกจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านสังคมในยุคต่างๆ จึงทำให้มีความเฉพาะทาง จึงทำให้บางครั้งงุนงงกับเนื้อหาไปบ้าง (แต่ก็ยังพอทำความเข้าใจได้) ที่สำคัญสำหรับเราแล้ว สังคมวิทยา อาจจะเป็นแค่เรื่องของความคิดเห็นผ่านมุมมองของผู้คนแต่ละยุค (ที่แค่ใช้ทฤษฎีมาเป็นเครื่องมือรองรับให้น่าเชื่อถือ) จึงไม่แปลกที่เมื่อเราอ่านแล้ว อาจจะรู้สึกอยากถกเถียงบ้างในบางเรื่อง หรือบางเรื่องอาจจะรู้สึกอยากวางหนังสือไม่อยากอ่านต่อ (เพราะเราไม่คิดอย่างนั้น) ก็อย่าได้ยึดถือเป็นสาระ เอาเพียงแค่ใช้ สังคมวิทยา เล่มนี้ สะท้อนความเป็นตัวตนของเรา แค่นี้ก็นับเป็นประโยชน์ยิ่งนักแล้วใครสนใจหนังสือเล่มนี้ คลิกเลย !!!ตามไปอ่านรีวิวหนังสือเล่มอื่นๆ ได้ที่ iYom BookViewsเครดิตรูปทั้งหมดรูปที 1 (รูปภาพโดยผู้เขียน)รูปที่ 2 (รูปภาพโดยผู้เขียน)รูปที่ 3 (Photo by Ryoji Iwata on Unsplash)รูปที่ 4 (รูปภาพโดยผู้เขียน)
NiYom • 7 มิ.ย. 63
อ่าน
เรียน Pre-degree ม.รามคำแหง ยากมั้ย?
เรียน Pre-degree ม.รามคำแหง ยากมั้ย? แบ่งเวลายังไง?สำหรับน้องๆที่กำลังสนใจระบบการเรียนแบบ Pre-degree ของ ม.รามคำแหง ที่เป็นทางเลือกหนึ่งในการค้นหาตัวเองในอนาคตโดยประหยัดทั้ง เวลา กับ ค่าเทอม ที่ไม่แพง และคุ้มค่า แต่ต้องแลกมากับความขยัน มีวินัย อดทน ของตัวเอง.......เริ่มสมัครได้ตั้งแต่อายุ15 ใช้วุฒิม.3 สมัครได้เลย!! ติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านทางเว็บไซต์ www.ru.ac.th หรือทางเพจของทางมหาวิทยาลัย PR Ramkhamhaeng University ซึ่งวันนี้เราจะนำประสบการณ์ของตัวเราเองมาแบ่งปันให้กับน้องๆเป็นแนวทางในการวางแผนนะคะเราเป็นนักเรียนพรีดีกรีคนนึง คณะสื่อสารมวลชน ของส่วนภูมิภาค ที่ตอนนี้กำลังจะขึ้นปี3แล้ววววว เย่ๆๆๆๆ!!! (ม.5กำลังจะขึ้นม.6)โดยจุดเริ่มต้นที่มาเรียนระบบนี้เมื่อตอนเราอายุ15ปี ใช้วุฒิม.3ของเราในการสมัคร ตอนแรกคือเกิดจากการที่พี่ชายของเราเรียนพรีดีกรีของรามเหมือนกัน ส่วนตัวพี่ชายเราเรียนคณะนิติศาสตร์ คุณแม่เราเลยอยากให้เราเรียนพรีดีกรีเหมือนพี่ชาย โดยแม่บอกเหตุผลว่าค่าหน่วยกิตถูกและประหยัดเวลา ไม่ต้องเข้าเรียน อ่านหนังสือ ฟังบรรยายไปสอบอย่างเดียว และสามารถเรียนจบปริญญาตรีภายในอายุ19ปี ถ้าขยัน อดทน มีระเบียบวินัยต่อตัวเอง ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามากๆ ส่วนตัวเราในตอนนั้นคือใจเราอยากเรียนแบบปกติ และตั้งใจจะเข้าคณะที่เกี่ยวกับภาษาด้วยซ้ำ แต่พอแม่บอกว่าถ้าเราเริ่มต้นได้เร็วกว่าคนอื่นมันจะดีต่อตัวเราในอนาคต เราคิดว่าด้วยความที่ถ้าเราเรียนจบได้เร็วเราอยากจะทำงานหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัว ซึ่งด้วยความที่เราสนใจอยากจะเรียนคณะมนุษยศาสตร์ แต่คณะนี้มีแค่ในส่วนกลาง(คือต้องไปสอบวันธรรมดาที่ม.รามคำแหงหรือที่กรุงเทพ) ซึ่งเราไม่ได้สะดวกขนาดนั้นเพราะเราอยู่ตจว. จึงไปศึกษาดูว่ามีคณะอะไรบ้างในส่วนภูมิภาคที่เราสนใจ ก็จะมี4คณะ ได้แก่ คณะนิติศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ คณะสื่อสารมวลชน และคณะรัฐศาสตร์ ณ ตอนนั้นแม่เราแนะนำให้เรียนรัฐศาสตร์ แต่เราก็ไม่ได้ชอบขนาดนั้นเลยคุยกับแม่ว่าจะเรียนสื่อสารแทนเพราะเราชอบดูพวกสื่อต่างๆหรือชอบการพูดสื่อสาร(ส่วนตัวเป็นคนพูดไม่รู้เรื่อง เข้าใจยากด้วยแหละ555) แม่ก็เห็นด้วยเพราะด้วยความที่เราสื่อสารกับคนไม่รู้เรื่องมันก็เหมือนเรียนอันนี้แล้วเราจะได้มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นและได้พัฒนาตัวเองด้วย แต่อยากบอกว่าส่วนตัวเราเวลาอยู่กับเพื่อนมักจะเป็นผู้ฟังเสมอไม่ค่อยได้เล่าเรื่องของตัวเองสักเท่าไหร่ แม่ก็ถามว่าจะไปต่อยอดยังไง? เราในตอนนั้นก็ไม่รู้หรอกว่าจบไปจะทำอะไรแต่เราแค่เลือกในสิ่งที่เราชอบ คิดซะว่าเป็นการค้นหาตัวเองในขณะที่เราเรียนม.ปลายควบคู่ไปด้วย หลังจากที่คุยกันไปสักพักพอตกลงกันได้แม่เราก็สมัครให้เลย เมื่อขึ้นม.4มาเป็นช่วงโควิด-19 เรียนออนไลน์ที่บ้านอยู่แต่บ้านเพราะออกไปไหนไม่ได้ เราเองก็เรียนแผนวิทย์-คณิต ซึ่งไม่ใช่แผนที่เราถนัดเท่าไหร่และไม่ชอบวิทย์คณิตเลย แต่ด้วยความที่แผนการเรียนนี้มันสามารถมีทางเลือกมากกว่าเลยอดทนตั้งใจเรียนมาเรื่อยๆ ระหว่างปิดเทอมออนไลน์เราก็สอบปีแรกของรามแบบออนไลน์คิดว่าโชคดีมากเลยที่สอบแบบออนไลน์ทำให้เรามีเวลาเตรียมอ่านมากพอ เราก็ลงวิชาเลย6ตัวจุกๆ ซึ่งปีนั้นเป็นหลักสูตรเก่าต้องลงวิชาบังคับเป็นวิชาพื้นฐาน แต่เปลี่ยนหลักสูตรใหม่ตั้งแต่ปี 65 ขึ้นไป ส่วนตัวเราทำข้อสอบได้นะ ได้ A มา 3 ตัวเลย มีเทคนิคคืออ่านชีทแดงของม.ราม เก่าๆหลายๆปี จดสรุปไปนิดหน่อยเพื่อให้กลับมาอ่านแล้วจำได้ง่าย แค่ขยันอ่านบ่อยๆก็ทำได้เองไม่ยากเลย ส่วนเรื่องแบ่งเวลานั้น แต่ละคนมีเวลาชีวิตเป็นของตัวเองบางคนต้องช่วยทำงานของที่บ้านก็ต้องแบ่งเวลาอ่าน หรืออย่างเราที่อยู่บ้านไม่ได้ทำอะไรสักเท่าไหร่ ค่อนข้างที่จะไม่ยุ่งมากก็เลยมีเวลาอ่านได้เยอะ บอกเลยปีแรกเราเครียดมากจนตอนที่สอบวิชาอังกฤษผ่านคอมเป็นตัวสุดท้าย เรามีอาการปวดท้อง ตาเบลอไปหมดอ่านตัวหนังสือแทบไม่ได้จนกระทั่งนั่งกดข้อสอบอยู่ดีๆก็อ้วกออกมาเลย ซึ่งตอนนั้นเราปวดปจด.ด้วย คือมันเป็นอุปสรรคต่อการทำข้อสอบมากๆเลย (วิชาสุดท้ายแล้วแท้ๆ!!!) หลังจากเริ่มปรับตัวมาเรื่อยๆบวกกับขึ้นม.5 ต้องมาเรียนที่รร. เราก็เรียนไปด้วยทำกิจกรรมไปด้วยแต่พอถึงช่วงที่สอบของรามเราบางทีเราก็มาอ่านที่รร.หลังเลิกเรียนเสร็จทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนเราเริ่มจัดระเบียบความคิด เวลา และความรับผิดชอบมากขึ้นมาเรื่อยๆดังนั้น ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เราต้องให้ความสำคัญกับตัวเอง อย่าพยายามพึ่งคนอื่น ไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร ไม่ว่าใครจะว่ายังไงกับเราไม่ต้องสนใจหรอก อยากทำอะไรก็ทำ แต่ละคนมีทางเลือกในแบบของตัวเอง เราก็เป็นคนนึงที่ไม่ได้เก่งอะไรแต่เราเป็นคนพยายาม ตั้งใจทำอะไรให้ดีที่สุด เราก็เชื่อว่าทุกคนทำได้นะ สู้ๆ!!!!!!!ส่วนเราในอายุ17 พอเป็นช่วงปิดเทอมของเด็กมัธยมทั่วไป เราจะใช้เวลาพักผ่อนของเด็กม.ปลายธรรมดาๆคนนึง ในการอ่านหนังสือ อ่านชีทแดง ของม.ราม เพื่อเตรียมตัวสอบปี2/เทอม2 ซึ่งลงไป5วิชา เป็นปรนัยทุกตัว....ถามว่าขี้เกียจมั้ยกับการต้องแบ่งเวลาอ่านหนังสือเอง ก็ขี้เกียจนะแต่เราก็ต้องสอบให้ผ่านเพื่อตัวเราเอง ส่วนตัวเราเตรียมตัวอ่านประมาณเดือนนึง ระหว่างที่อยู่บ้านก็อ่านชีทแดงสัก20-30นาทีแล้วไปดูยูทูปต่อ หรือบางทีฟังเพลงไปด้วยอ่านไปด้วย ให้มันrelax เพราะเราเป็นคนไม่ชอบความเครียด พอวันไหนอ่านเยอะเราก็จะพักแล้วดูศิลปินที่ชอบหรือดูอะไรตลกๆฮาๆให้ได้หัวเราะออกมา5555 ทำแบบนี้ทุกวัน หรือบางวันที่รู้สึกหมกมุ่นก็จะออกไปเที่ยวข้างนอกกินของอร่อยๆกับครอบครัวเพื่อเปิดหูเปิดตา ซึ่งส่วนมากเราจะสอบช่วงเสาร์อาทิตย์เพราะเป็นของภูมิภาค และสามารถเลือกศูนย์สอบตามแต่ละจังหวัดที่อยู่ใกล้บ้านเราได้ อย่างของเราอยู่จังหวัดระยอง แต่ไปสอบที่ศูนย์สอบที่จันทบุรี ตอนไปสอบคนก็ไม่ได้เยอะมาก มีหลากหลายวัย รู้สึกไม่ได้กดดันอะไรมากเพราะบรรยากาศในห้องสอบแอร์เย็น ไม่แออัด แต่ตอนมาสอบแรกๆก็ตื่นเต้นเป็นปกติแหละ แล้วก็ผ่านมาได้ด้วยดี ถ้าใครที่ไม่ชอบอยู่บ้านเฉยๆลองค้นหาตัวเองศึกษาทางเลือกดีๆให้ชีวิตดูนะคะ เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนนะคะ เราเองก็จะสู้ไปพร้อมกันเปลวเทียนให้แสง รามคำแหงให้ทาง ขอบคุณภาพปกจาก : Piqselsภาพที่ 1 จาก : มหาวิทยาลัยรามคำแหง / www.ru.ac.thภาพที่ 2 จาก : มหาวิทยาลัยรามคำแหง / www.ru.ac.thภาพที่ 3 จาก : PR Ramkhamhaeng University / Official Page Facebook มหาวิทยาลัยรามคำแหงภาพที่ 4 จาก : PR Ramkhamhaeng University / Official Page Facebook มหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
avazako • 16 เม.ย. 66
อ่าน
▶️คลิป : วิธีฝึก 90 degree hold
วิธีฝึก 90 degree hold ท่าที่บอดี้เวทสายโยคะ, Calisthenics, streetworkout, Gymnastic ไม่ควรพลาดกดไลค์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจ และอย่าลืมกด Subscribe ด้วยนะครับ ร่วมเป็นผู้สนับสนุนช่อง https://www.youtube.com/channel/UCxFgxC1Z-jUBNTDPc5O9J-g/joinร่วมเป็นผู้สนับสนุนช่อง เริ่มต้น 35บาทต่อเดือน เพื่อเป็นกำลังใจในให้เรากันได้ครับ🙏🏻🙏🏻 โปรแกรมสำหรับอื่นๆดูที่👇👇👇YouTube https://youtube.com/c/UCANTHENICZFanpage:https://www.facebook.com/Ucanthenicz/ ติดตามเพิ่มเติมได้ที่นี่👇👇👇👇IG:https://www.instagram.com/coach_cheir TrueID:https://creators.trueid.net/@94757 Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSJBtk2Qk/ SnackVideo :http://sck.io/Ly8wdIdy LineID : coach_cheir ออกกำลังกายอยู่บ้านได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !
UcanThenicz • 31 พ.ค. 64
อ่าน
พาไปส่องงานเปิดตัว 137 Degrees x ButterBear
สวัสดีค่ะหลายวันก่อนเราได้มีโอกาสไปร่วมงานเปิดตัวสินค้า 137 Degrees ที่พาราก้อน เป็นงานเปิดตัวพรีเซนเตอร์คนสวยคนใหม่ นั่นก็คือน้องหมีเนย Butter Bear นั่นเองจ้า เรียกว่าเลิศหรู แถมมีทั้งความน่ารักและก็ยังได้รู้จักสินค้าแบรนด์ใหม่ๆของทางบ้านเราด้วย นั่นก็ แบรนด์ 137 Degrees เหมาะสำหรับใครที่ไม่ชอบดื่มนมวัวเพราะว่า นมของทางแบรนด์ทำจากถั่วชนิดต่างๆค่ะ โดยงานนี้เป็นการรวมตัวของผู้โชคดีที่ทางแบรนด์ได้ประกาศกิจกรรมให้ร่วมสนุกไปก่อนหน้านี้ค่ะ โดยงานนี้มีชื่อเต็มว่า Meet Milk: จิบนมฮีลใจกับน้องเนย By 137 Degrees ว้าว แค่ภาพเปิดตัวเชิญชวนไปงานก็น่ารักแล้วค่ะ นมเพื่อสุขภาพน้องหมีเนยก็เลยต้องออกกำลังกายสักหน่อย อิอิ 37 Degrees x ButterBear วันที่ไปร่วมงานจะบอกว่างานจัดมาในรูปแบบ Canival เปิดตัวได้หรูหราพร้อมกับความน่ารักของน้องหมีเนยที่มีลวดลายรุ่นพิเศษออกมาให้พวกเราได้สะสมกันหลายรุ่นเลยค่ะ และแต่ละรุ่นก็มีน้องหมีเนยใส่ชุดน่ารักๆแต่ละแบบอยู่ข้างแต่ละรสชาติค่ะ ซึ่งแต่ละรสชาติก็จะมีน้องหมีเนยก็จะทำจากถั่วหลายๆอย่างค่ะ บรรยากาศภายในงาน น่ารักมากๆเลยค่ะ เพราะว่าเขาได้ทำการตั้งสแตนดี้ของน้องเนยควบคู่ไปกับกล่องนมแต่ละรุ่นขนาดใหญ่เอาไว้ให้แฟนคลับได้ถ่ายรูปเก็บภาพกันอย่างสนุกสนานก่อนน้องจะมาค่ะ และนอกจากนั้นแล้วงานด้านในก็ยังมีกิจกรรมให้ผู้โชคดีได้ร่วมกิจกรรมกันอีก รุ่นพิเศษ Butter Bear Limited edition จะมีให้พวกเราสะสมถึง 5 ลาย 5 รส เลยทีเดียว !! Macadamia milk นมแมคาเดเมีย ,Almond Milk อัลมอนด์ , Walnut Milk นมวอลนัท , Pistachio Milk นมพิสตาชีโอ , Belgian Chocolate รสช็อคโกแลตเบลเยียม และในงานมีให้ชิมด้วยนะคะ หลังจากน้องเนยมาถึงก็มีวีดีโอเปิดตัวพร้อมกับเพลงกึ่งมิวสิคเคิล สุดพิเศษ ที่น้องเนยและทีมงานมาพิเศษเพื่องานนี้โดยเฉพาะ และมีวลีเด็ดที่ทำให้ทุกคนขำพร้อมกันก็คือ " คนจะผอมเขาไม่ทานมื้อดึกกันหรอกค่ะมัม!! " หลังจากที่ได้ชิมเราจะบอกทุกคนว่าถ้าใครชอบนมที่มีรสชาติมันหน่อย บอกเลยว่าแบรนด์นี้จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากนมวัวทั่วไปค่ะ หวังว่าบทความที่เรานำมาฝากจะทำให้ทุกคนรู้จักแบรนด์นี้และก็รุ่นพิเศษของน้องหมีเนยรุ่นนี้มากขึ้นค่ะ ^^ ขอบอกหน่อยนึงว่าตอนนี้น้องไม่ได้มีขายรุ่นน้องเนยแค่ใน 7-11 อย่างเดียวแล้วนะคะ เพราะว่าเราเริ่มเห็นแบรนด์เพิ่มรุ่นของน้องเนยที่ห้าง Tops แล้วค่ะ ใครที่กำลังตามหาก็ลองไปดูกันได้เลยคิดว่าหลังจากนี้น่าจะหาลายน้องได้ง่ายขึ้นค่ะ ข้อมูล : Mallibell ภาพประกอบ : 1 Mallibell เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
Mallibell • 30 เม.ย. 68
อ่าน
ประสบการณ์เรียน Pre-degree ม.รามคำแหง ครั้งแรกตลอด 1 เทอม
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ห่างหายกันไป 3 เดือนกว่าเลยเลยที่ผมไม่ได้เขียนบทความ ต้องขอเกริ่นสาเหตุที่ไม่ได้เขียนบทความเนื่องจากติดงานหลายอย่าง ผมเป็นนักเรียนมัธยมปลายและเรียน Pre-degree ม.รามคำแหงไปด้วย และช่วงก่อนหน้าที่ผ่านมาเป็นช่วงสอบของโรงเรียนตามด้วยของมหาวิทยาลัยรามคำแหงผมจึงไปเตรียมตัวสอบ และได้ผ่านช่วงเวลาสอบมาแล้ว ผมจึงอยากจะเอาประสบการณ์การเรียน เรียนของตัวเองในช่วง 1 เทอมที่ผ่านมาแบ่งบันให้เพื่อน ๆ ให้ได้ทราบต้องขออธิบายกันก่อนนะครับว่า Pre-degree คืออะไรสำหรับเพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่านแล้วอ่านไม่ทราบ แต่ผมเดาว่าคนส่วนใหญ่ที่เข้ามาอ่านบทความนี้น่าจะเป็นนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหงเช่นเดียวกันกับผม แต่จะขอให้ข้อมูลไว้ เผื่อมีรุ่นถัดมาหาข้อมูลสนใจเรียน Pre-degree เหมือนกันกับผมผมจะสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ นะครับPre-degree คือการเรียนปริญาตรีล่วงหน้า เหมาะสำหรับคนที่จบ ม.3 แล้ว โดยนักศึกษา Pre-degree สามารถเรียนควบคู่ไปกับมัธยมปลายได้ เมื่อสมัครเป็นนักศึกษา Pre-degree ก็ลงทะเบียนเข้าเรียนออนไลน์หรือในมหาวิทยาลัยตามแต่สะดวก และก็สอบปลายภาคครับ ข้อดีคือเหมาะสำหรับคนที่รู็ตัวเองเร็วว่าชอบอะไรอยากเรียนอะไร และผู้ที่ต้องการจบปริญญาตรีเร็วกว่าปกติครับสำหรับผมนั้นสมัครเป็น Pre-degree (ส่วนกลาง) รหัส 66 และเรียนคณะมนุษย์ศาสตร์ เพราะผมมีความสนใจในภาษาญี่ปุ่น จึงเลือกเรียนวิชาเอกเอกญี่ปุ่น และวิชาโทภาษาไทยวิทยาครับ อันที่จริงอยากให้มีคณะมนุษย์เปิดสอนในส่วนภูมิภาคด้วยแต่ว่าก็ไม่มีคณะนี้เปิด จึงทำให้ผมตัดสินใจเรียนส่วนกลางตามความชอบของตนเอง ข้อดีของมหาวิทยลัยรามคำแหงที่ผมชอบคือเราสามารถจัดการบริหารเวลาเรียนเองได้เพราะเราแค่ลงเรียนในวิชาที่โครงสร้างหลักศุตรกำหนดโดยลงได้สูงสุด 22 หน่วยกิตต่อเทอม และลงได้ 3ภาคเรียน คือ 1และ 2 และภาคฤดูร้อนแต่ภาคฤดูร้อนจะลงได้น้อยกว่า ลงเสร็จสอบผ่านก็ยื่นขอจบการศึกษาได้เร็ว อย่างคณะผมใช้ 139 หน่วยกิต จบเร็วที่สุดได้ก็แค่ 3 ปี อีกอย่างคือไม่ว่าอายุเท่าไหร่ก็สามารถสมัครเป็นนักศึกษาเข้าเรียนได้ ให้อิสระกับการศึกษาและการบริหารจัดการตัวเอง ผมว่าเป็นมหาวิทยาลัียที่เหมาะกับผมครับและอีกอย่างคือการเปิดให้นักเรียน ม.ปลายเรียนล่วงหน้าคือการ Pre-degree เพื่อน ๆ คนไหนชอบสไตล์การเรียนแบบนี้ผมก็ขอชวนมาสมัครเรียนกันได้เลยนะครับ จุดเริ่มต้นการสนใจเรียน เกิดขึ้นในช่วงท้าย ม.3 ของผมหลังจากที่ผมได้เลือกเรียนต่อ ม.ปลาย แผนการณ์เรียนวิทยาศาสตร์ -คณิตศาสตร์ (เพิ่มเติมภาษาญี่ปุ่น) จึงอยากลองเรียนภาษาญ๊่ปุ่นในระดับที่สูงขึ้นไปอีก หากเพื่อน ๆ จะตัดสินใจเรียนอะไรก็ลองหาสิ่งที่เหมาะกับเราและตัดสิ้นใจเลือกนะครับในส่วนของการเรียนผมยอมรับเลยว่าเหนื่อยมาก ๆ เพราะนอกจากจะต้องเรียนในโรงเรียนแล้วนักศึกษา Pre-degree อ่านหนังสือเตรียมสอบด้วย โดยผมใช้อ่านเอกสารที่สอนและทำสรุปเป็นไฟล์ไว้อ่าน แล้วมันก็จะมีบางวิชาที่อาจารย์ไม่ได้ทำเอกสารประกอบการสอนผมก็ใช้วิธีดูบรรยายย้องหลัง ซึ่งสามารถรับชมผ่านเว็บไซต์ได้เป็นอะไรที่สะดวกมาก ๆ แล้วก็ทำสรุปเนื้อหาครับ เทอม 1 /66 ตอนนี้เกรดออกมาก็เป็นประมาณนี้เลยบางเกรดก็พอจะรู้ก่อนผลออกเพราะ จากการที่ไปสอบ e-testing ก็พอจะรู้เกรดแล้วบางวิชาไว้ถ้ามีโอกาสผมจะเอาเรื่องสอบ e-testing มาเขียนให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันครับแหม ผมเองก็ได้มาครบเลย ตั้งแต่ A ถึง F เลยต้องรับกันแบบอบอุ่นสำหรับการเป็นนักศึกษาใหม่เทอมแรกของผม แต่ก็ผ่านไปสำหรับประสบการณ์การเรียน มาถึงช่วงสอบผมต้องเดินทางจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพ ก็ด้วยความที่เราไม่เคยไปกรุงเทพ ก็ครั้งนี้และก็เป็นโอกาสครั้งแรกที่ได้ไป ผมก็ฝึกเดินทางด้วยตัวเองในกรุงเทพอ่ะน่ะแรก ๆ ก็มีไปทันบ้าง หลัง ๆ ก่อนเริ่มเรียนแล้ว ผมชอบแวะไปหอสมุดกลางมหาวิทยาลัยมาก ๆ มีหนังสือให้อ่านเยอะเลยบรรยากาศเงียบสงบ และมีมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกด้านการเรียนเยอะเลย การเรียน Pre-degree ม.รามคำแหง เทอมแรกของผมก็สนุกมากแต่เหนื่อยโดยรวมผมถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ช่วยให้ผมได้พัฒนยาตนเองได้เรียนรู็อะไรหลายอย่างและได้ความรู้ใหม่ ๆ ในชีวิตนอกจากการเรียนการสอนแล้วผมก็ได้ประสบการณ์ต่าง ๆ มากครับ สุดท้ายนี้ขอขอคุณที่อ่านกันมาจนจบนะครับ ใกล้ปีใหม่แล้ว สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับภาพปกออกแบบด้วย canva ภาพประกอบปกบทความ จาก canva ของ aopsan ภาพที่ 1 ขอบคุณรูปภาพจาก lil_foot_ จาก Pixabayภาพที่ 2 ขอบคุณรูปภาพจาก Sasin Tipchai จาก Pixabayภาพที่ 3 โดยผู้เขียน ขอบคุณรูปภาพจาก Ramkhamhaeng University. RU Course on Demand (M-Learning) ภาพที่ 4 โดยผู้เขียน ขอบคุณรูปภาพจาก e-Services Ruติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก มหาวิทยาลัยรามคำแหง ใช้เป็นภาพประกอบบทความเท่านั้นเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
NaaiKianKot • 7 ม.ค. 67
อ่าน
ลุยเดี่ยวกับสาวผมบลอนด์สุดสวยกับเกม Tekken's Nina Williams in Death by Degrees
ใครจะไปคิดว่าตัวละครสาวสุดเซ็กซี่อย่าง Nina Williams จากเกมต่อสู้ชื่อดังอย่าง Tekken จะมีเกมภาคแยกของตัวเองกับเขาด้วย! กับเกม Death by Degrees ที่วางจำหน่ายบน PlayStation 2 เมื่อปี 2005 เกมนี้พาเราออกจากสังเวียนหมัดมวย ไปลุยเดี่ยวในภารกิจสายลับสุดระห่ำแบบเต็มตัว บอกเลยว่าตอนนั้นตื่นเต้นมาก เพราะเป็นแฟนตัวยงของ Nina อยู่แล้ว แถมตัวเกมยังดูมีกลิ่นอายแบบ Resident Evil ผสม Metal Gear Solid ที่ชอบอีกต่างหาก พอได้ลองเล่นจริงๆ แล้วจะเป็นยังไง มาติดตามกันเลย! เนื้อเรื่อง ใน Death by Degrees เราจะได้รับบทเป็น Nina Williams สายลับสาวจากหน่วยงานลับที่ถูกส่งไปแทรกซึมเข้าไปในเรือสำราญสุดหรูที่ชื่อว่า Amphitrite เพื่อสืบหาอาวุธชีวภาพที่ชื่อว่า "Salacia" เนื้อเรื่องไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย แต่ก็ถือว่าพอใช้ได้ในยุคนั้น มีการหักมุมนิดๆ หน่อยๆ พอให้เซอร์ไพรส์บ้าง แต่ที่ชอบคือการเล่าเรื่องผ่านคัตซีนที่ทำออกมาได้สวยงามในยุคนั้น CG อาจจะดูแข็งๆ ไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ขัดหูขัดตาอะไรมากนัก เสียดายที่เนื้อเรื่องไม่ได้เชื่อมโยงกับภาคหลักของ Tekken เท่าไหร่ ทำให้แฟนๆ ที่หวังจะเห็น Easter Egg หรือ Lore ต่างๆ อาจจะผิดหวังเล็กน้อย เกมเพลย์ มาถึงหัวใจหลักของเกมกันบ้าง ระบบการเล่นของ Death by Degrees เป็นแนว Action-Adventure ที่ผสมผสานการต่อสู้แบบประชิดตัวเข้ากับการลอบเร้นและไขปริศนาเล็กๆ น้อยๆ ในส่วนของการต่อสู้ ต้องบอกว่าทำออกมาได้ค่อนข้างแปลกใหม่ในยุคนั้น ด้วยระบบ "Critical Strike" ที่ให้เราเล็งโจมตีจุดตายของศัตรูแบบเจาะจง ไม่ว่าจะเป็นการเตะผ่าหมาก จิ้มตา หรือกระทุ้งคอ ซึ่งแต่ละจุดจะมีท่าโจมตีและเอฟเฟกต์ที่แตกต่างกันออกไป ช่วงแรกๆ ที่เล่นก็รู้สึกสนุกดี ได้ลองกดท่าต่างๆ แต่พอเล่นไปนานๆ ก็เริ่มรู้สึกว่าระบบนี้มันค่อนข้างยุ่งยากและไม่ค่อยลื่นไหลเท่าไหร่ โดยเฉพาะเวลาเจอศัตรูรุม หลายครั้งที่กะจังหวะกดท่าไม่ถูก ทำให้โดนรุมยำเละ แถมมุมกล้องในเกมก็ค่อนข้างมีปัญหา บ่อยครั้งที่หมุนมุมกล้องไม่ทัน จนมองไม่เห็นศัตรู ส่วนระบบลอบเร้นก็ทำออกมาได้กลางๆ ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีมาก มีช่วงที่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ บ้าง แต่ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย ส่วนใหญ่ก็แค่เดินหลบหลังกำแพง หรือคลานผ่านช่องแอร์ ปริศนาในเกมก็ไม่ได้ยาก ส่วนใหญ่เป็นปริศนาง่ายๆ อย่างเช่น การหาของมาไขกุญแจ หรือการกดสวิตช์ตามลำดับ โดยรวมแล้ว เกมเพลย์ของ Death by Degrees ถือว่าสอบไม่ค่อยผ่านเท่าไหร่ ระบบการต่อสู้ที่ดูน่าสนใจในตอนแรก กลับกลายเป็นจุดอ่อนของเกม แถมมุมกล้องกับระบบลอบเร้นก็ยังทำออกมาได้ไม่ดีพอ กราฟิก ในยุค PlayStation 2 กราฟิกของ Death by Degrees ถือว่าอยู่ในระดับที่โอเค ตัวละคร ฉาก และเอฟเฟกต์ต่างๆ ทำออกมาได้สวยงามในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะโมเดลของ Nina ที่ดูสวยงามและเซ็กซี่ (แอบมีฉากเซอร์วิสแฟนๆ เล็กๆ น้อยๆ ด้วยนะ) แต่ก็อย่างว่า เกมนี้ก็มีอายุเกือบ 20 ปีแล้ว ถ้าเทียบกับเกมยุคนี้ กราฟิกก็คงดูโบราณไปหน่อย เสียง เสียงประกอบและเพลงประกอบในเกมทำออกมาได้ดี ช่วยเพิ่มอารมณ์ความตื่นเต้นให้กับเกมได้เป็นอย่างดี เสียงพากย์ของตัวละครก็ถือว่าโอเค แต่แอบขัดใจเสียงพากย์ภาษาอังกฤษของ Nina นิดหน่อย รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเข้ากับบุคลิกของเธอเท่าไหร่ สรุป Tekken's Nina Williams in: Death by Degrees เป็นเกมที่น่าผิดหวังสำหรับผม แม้จะมีไอเดียที่ดี แต่ระบบการเล่นที่ยุ่งยาก มุมกล้องที่แย่ และเนื้อเรื่องที่ไม่ค่อยน่าสนใจ ทำให้เกมนี้ไม่สนุกอย่างที่คิด ถ้าคุณเป็นแฟน Tekken และอยากรู้จัก Nina มากขึ้น ก็อาจจะลองเล่นดูได้ แต่ถ้าคุณหวังว่าจะได้เล่นเกมแอ็กชันสุดมันส์ ผมแนะนำให้มองหาเกมอื่นดีกว่า คะแนน 6/10 ข้อดี กราฟิกสวยงามในยุคนั้น เสียงประกอบและเพลงประกอบทำได้ดี ฉากแอ็กชันบางฉากทำออกมาได้น่าตื่นเต้น ข้อเสีย ระบบการต่อสู้ยุ่งยากและไม่ลื่นไหล มุมกล้องมีปัญหา เนื้อเรื่องไม่ค่อยน่าสนใจ ระบบลอบเร้นยังทำได้ไม่ดีพอ หมายเหตุ: นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ประสบการณ์ในการเล่นเกมของแต่ละคนอาจแตกต่างกันออกไป เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
jjonline5581 • 23 พ.ย. 67
อ่าน
25 Degrees Bangkok สุดยอดความอร่อยที่คนรักเบอร์เกอร์ต้องลอง
สวัสดีเบอร์เกอร์เลิฟเวอร์ทุกคนค่า วันนี้เราจะพาทุกคนไปกินเบอร์เกอร์ที่อร่อยที่สุดในกรุงเทพ ฯ เลยก็ว่าได้ร้านนี้มีชื่อว่า 25 DEGREES Bangkok พิกัดไม่ใกล้ไม่ไกลตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ของโรงแรม Pullman Hotel G ย่านสีลม ร้านอยู่ด้านหน้าเลยจ้าสังเกตง่ายมาก ร้านตกแต่งสไตล์อเมริกัน กลิ่นอายชิคาโก้เบา ๆ เหมือนกินเบอร์เกอร์ที่เมืองนอกกันเลยทีเดียว แถมช่วงนี้มีโปรโมชันเพียบ นอกจากที่นี่จะมีเมนูเบอร์เกอร์แล้ว ก็ยังมีเมนูอื่น ๆ อีกเพียบ ทั้งซี่โครงหมูบาร์บีคิว มันฝรั่งทอดหลากหลายสไตล์ ปลาหมึกทอดท่านเล่นแบบฟิน ๆ ไก่ทอดบาร์บีคิว และไฮไลท์เด็ดของที่นี่ต้องยกให้ Milk Shake (160-.) เลยจ้ามีให้เลือกกัน 4 รสชาติVanilla bean ,Double Chocolate, Strawberry และ Chocolate & Banana บอกเลยว่าไม่ควรพลาดอย่างยิ่งตอนนี้มีโปร 1 แถม 1 ทุกวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 11.00 - 15.00 น.ด้วยนะคะทุกคน เมนูเบอร์เกอร์จะมีให้เลือกทั้งหมด 8 เมนูกันเลยเริ่มต้นที่ 330 บาท และถ้าอยากจะเพิ่มอะไรในเบอร์เกอร์ของเราก็มีให้เลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ วันนี้เราเลือกเป็นเบอร์เกอร์ Number One เเละเลือกเปลี่ยนขนมปังเป็นแบบ Gluten-free ในเบอร์เกอร์ก็จะมี Caramalized onion , Crescenza , Prelibato Gorgonzola , Bacon ,Augula , Thousand Island เลือกเพิ่ม Avocado ดูจากวัตถุดิบต่าง ๆ อัดแน่นขนาดนี้ต้องลองให้ได้เลยนะคะ นอกจากเมนูแนะนำทั้งเบอร์เกอร์และ Milk Shake แล้วนะคะ ยังมีเมนูของทานเล่น หรือใครจะทานแบบจริงจังก็ย่อมได้ เราสั่งมาทานเล่น ๆ กัน 2 เมนูเลยค่ะ 5555 เมนูแรกคือ Potato wedges ( 180-. บาท)กับ Topping แบบต่าง ๆ มีให้เลือก 3 Topping คือ Spicy Thai Herb , Mexican Salsa และ Cheesy Chili สำหรับจานที่เราสั่งจะเป็น Topping ด้วย Mexican Salsa นะคะ เป็นTopping ที่ให้ความสดชื่นจากมะเขือเทศ กับอโวคาโด เมนูที่สอง ก็คือเมนู Beer Battered Chicken Wings (6 ชิ้น 180-.บาท) หรือปีกไก่บาร์บีคิวนั่นเองค่า ปีกไก่ทอดกรอบ ๆ ฉ่ำซอสบาร์บีคิวแบบโฮมเมด อร่อยเด็ดมาก ๆ คิดแล้วก็หิวอย่างกินอีกแล้ว ใครที่เป็นสาวกของเบอร์เกอร์แบบต้นตำรับด้วยรางวัลการันตีมากมายเราบอกเลยว่าต้องมา ของเด็ดของอร่อย บรรยากาศดี โปรโมชันเพียบ แถมมีอาหารอื่น ๆ ให้เลือกทานอีกด้วยนอกจากเบอร์เกอร์ ใครที่แวะเวียนผ่านมาแถวสีลม ถือได้ว่าร้านนี้ควรมาเช็คอินความอิ่มอร่อย แล้วจะติดใจแบบ Appro around the world แน่นอนเลยน้า 📍25 Degrees Bangkok FB : 25 Degrees Bangkok. สั่งเดลิเวอรี 🛵 GRAB 🛵 LINEMAN 🛵 FOODPANDA 🛵 ROBINHOOD ⏰ เวลาเปิด - ปิดทุกวันเวลา7am - 9 pm (ปกติเปิด 24 ชม.) 📱 023524192 | @25degreesbkk (LINE@) 📨 25degreesmanager@randblab.com 🌎 www.randblab.com/25degrees-bkk เรื่องและภาพโดย : Appro around the world #25degreesburger #25degreesBangko #pullmanhotelg #ร้านเบอร์เกอร์อร่อยในกรุงเทพ #ร้านอาหารน่านั่งในกรุงเทพ #เที่ยวกรุงเทพช่วงโควิด #ไก่ทอดบาร์บีคิว
Appro around the world • 28 ม.ค. 64
อ่าน
25 Degrees Burger เบอร์เกอร์สไตล์อเมริกันย่านบางรัก Enjoy ได้ 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์
เบอร์เกอร์ อาหารสไตล์อเมริกันที่ดูเรียบง่าย ทานได้อย่างรวดเร็ว และอิ่มได้ในชิ้นเดียว ใครหลายๆ คนนิยามมันว่าเป็นอาหาร Junk Food ก็ตาม แต่ถ้าลองเปลี่ยนมุมมองซะใหม่ และยกระดับเบอร์เกอร์ให้มีระดับในร้านอาหารโรงแรมหรูใจกลางเมือง หนึ่งในร้านนั้น จะต้องมีร้านที่ชื่อว่า “25 Degrees Burger” ร้านอาหารสไตล์อเมริกันกับคอนเซป Enjoy Burger 24/7 เวลาไหนก็เอ็นจอยกับเบอร์เกอร์แสนอร่อยได้บรรยากาศหน้าร้านร้าน 25 Degrees Burger อยู่ที่ชั้น 1 ของโรงแรม Pullman G สีลม การเดินทางสามารถมาด้วยรถโดยสารสาธารณะ หรือจะขับรถยนต์ส่วนตัวมาจอดที่โรงแรมก็ได้เช่นกัน โดยชื่อร้านนั้นมาจากการที่ทางร้านเปิดแอร์เพียงแค่ 25 องศาเซลเซียสแบบเดียวกับที่สาขาแม่ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งถือว่าร้อนในต่างประเทศ แต่ถ้าเป็นในเมืองไทยแค่นี้ก็หนาวแล้ว ภายในร้านจะตกแต่งเป็นสไตล์อเมริกันจ๋า ที่เน้นเป็นกึ่งผับกึ่งนั่งชิว เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย ทั้งสายปาร์ตี้ หรือกลุ่มเพื่อนกินดื่ม ที่ร้านนี้ก็สามารถให้บริการได้ทุกรูปแบบบรรยากาศแบบอเมริกันที่อุณหภูมิ 25 องศาเมนูอาหารร้านนี้จะเน้นไปที่เบอร์เกอร์ตามชื่อร้าน นอกจากนี้ยังมีเมนูซิกเนเจอร์อีกหลายอย่างที่อร่อยและหารสชาติแบบนี้ไม่ได้จากที่อื่นเช่นกัน ส่วนสายดื่มหนักร้านนี้ก็มีแอลกอฮอล์ให้บริการเช่นกันตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดTraditional Caesarเริ่มต้นกันด้วยเมนูเบาๆ อย่าง Traditional Caesar ราคา 380 บาท สั่งแบบไซส์ Full เพื่อเน้นทานผัก ประกอบไปด้วย Romaine Lettuce หรือชื่อไทยคือผักกาดหวาน คลุกเคล้าด้วยชีสพาร์เมซานเรจจาโน โรยด้วย caper ที่นำไปทอดก่อนและโรยลงไป รสชาติจะเน้นไปที่ตัวผักกาดหวานที่มีความจืดนิดๆ ตัดด้วยความเค็มของชีสพาร์เมซาน และcaper ที่เพิ่มกลิ่นฉุนนิดๆ ทำให้จานนี้ทานได้ง่ายขึ้น รวมทั้งได้ความกรุบกรอบจากตัวผักSweet Potato Fried หรือมันหวานทอดต่อกันด้วย Sweet Potato Fried ราคา 120 บาท มันหวานทอดกรอบเสิร์ฟมาในกระป๋องเหล็ก รสชาติออกหวานและได้รสสัมผัสที่กรอบอร่อย ถึงแม้ว่าจะทานเรื่อยๆ จนเริ่มเย็นแล้ว ก็ยังกรอบอยู่ เหมาะกับทานคู่กับเบอร์เกอร์เป็นอย่างยิ่ง จะจิ้มซอสมะเขือเทศก็ได้ แต่ถ้าแนะนำควรทานแบบไม่จิ้มอะไรเลยBuns on Fire เมนูพิเศษประจำเดือนมิถุนายนจานหลักในวันนี้ เป็นเมนูพิเศษประจำเดือนมิถุนายน กับ Buns on Fire ราคา 499 บาท เบอร์เกอร์เบิร์นไฟที่มีส่วนประกอบหลักๆ 2 ส่วน ตัวเบอร์เกอร์นั้นจะมี เนื้อ U.S. Sirloin ที่สับและมาปั้นเป้นก้อน เบคอน เชดด้าชีส พริกไทย และซอสเบอาร์น (Bearnaise Sauce) ซอสข้นที่คล้ายๆฮอลแลนเดส แต่กลิ่นสมุนไพรเด่นกว่า ส่วนซอสที่เบิร์นไฟนั้นจะผสมระหว่างไวน์แดงกับวิสกี้ของ Rittenhouse ซึ่งตอนที่ราดลงไปแล้วจุดไฟจะลุกขึ้นมา รอจนไฟดับแล้วค่อยทาน รสชาติจะมีความแอลกอฮอล์นิดๆ ในตัวซอส เนื้อดีนุ่มอร่อย ส่วนขนมปังมีความ Juicy นิดๆ ทานได้เพลินๆไส้แน่น เลเยอร์ชัดVanilla Milk Shake เมนูในตำนานของร้านนี้ส่วนเครื่องดื่มที่แนะนำว่าต้องสั่งสำหรับร้านนี้ คือตระกูลมิลค์เชค ซึ่งมีให้เลือกประมาณ 4 รสชาติ แต่ที่อร่อยที่สุดยังต้องยกนิ้วให้กับ Vanilla Milk Shake ที่ใช้วานิลลาแท้ๆ มาทำเป็นไอศกรีมก่อนที่จะนำมาปั่นเป็น Milk Shake และอีกรสชาติที่อร่อยไม่แพ้กันกับ Chocolate Banana ที่อันนี้ใช้ไอศกรีมช็อกโกแลตมาปั่นกับกล้วย โดยจะได้รสชาติของช็อกโกแลตนำมาผสมกับความหวานของกล้วยหอมChocolate Banana Milk Shakeส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าร้านนี้สามารถนำเสนอเมนูเบอร์เกอร์ที่ใครหลายๆ คนอาจจะไม่เห็นคุณค่าของมัน กลายเป็นเมนูขึ้นหิ้งที่ควรค่าแก่การลอง และในแต่ละเดือนก็จะมีเมนูเบอร์เกอร์พิเศษที่บางครั้งจะเป็นการ Co กับเชฟชื่อดังท่านอื่นๆ ในไทย ทำให้การมาทานเบอร์เกอร์ร้านนี้ไม่มีความจำเจแน่นอน แต่กระนั้นเมนูซิกเนเจอร์อื่นๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน นะ ทั้ง Milk Shake และ Salad ส่วนการบริการทางร้านก็เน้นไม่แพ้กัน พนักงานจะคอยมาดูเราเรื่อยๆ เผื่อต้องการอะไรเพิ่มเติมโดยที่ไม่ต้องเรียกแต่อย่างใด สำหรับเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านรีวิวนี้แล้ว หากไปทานมาแล้วก็สามารถมา Comment ที่ด้านล่างรีวิวนี้ได้ หรือหากเจอร้านที่คิดว่าเด็ดกว่าก็มาบอกเล่ากันได้ กดแชร์แบ่งปันความอร่อยให้กับเพื่อนๆ และอย่าลืมกดติดตามผู้เขียนเพื่อไม่ให้พลาดรีวิวร้านอาหารใหม่ๆ และเป็นกำลังใจให้กับทางเพจได้รีวิวอาหารต่อๆ ไป 25 Degrees Burgerพิกัดความอร่อย: Pullman G Hotel สีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพเวลาเปิดปิด: ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงเบอร์โทรศัพท์: 023524192 #ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน#บทความดังกล่าวถูกเรียบเรียงและแต่งขึ้นโดยนักเขียนเองทั้งหมด#Burger #American #PullmanGHotel #Dinner สุกี้ในตำนาน 40 ปีกับร้าน COCA ย่านศาลาแดง*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"* ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565
เป็ดน้อยพากิน • 28 มิ.ย. 65
อ่าน
รวบรวมคำที่มีความหมาย I AGREE
สวัสดีค่ะ ทุกท่านกลับมาพบกับ Diary Therapy กันอีกครั้งนะคะ เคยมั้ยค่ะที่เวลาทำงานร่วมกับชาวต่างชาติเรามักจะใช้คำพูดเดิม ๆ เพราะคลังคำศัพท์ที่เรามีอาจมีคำศัพท์แค่นั้น จริง ๆ ทั้ง ๆ ที่เราสามารถพูดหรือใช้คำได้มากกว่าการที่เราพูดคำเดิม อย่างการที่มีความคิดเห็นอย่างเดียวกันหรือเห็นด้วยกับคู่สนทนา ก็มักจะใช้คำเดิมว่า "I AGREE" หรือถ้าให้ยาวขึ้นมาหน่อยก็ใช้คำว่า "I AGREE WITH YOU" ดังนั้นวันนี้ผู้เขียนขอรวบรวมคำที่มีความหมาย "ที่มีความคิดเห็นอย่างเดียวกันหรือเห็นด้วย" มาฝากทุกท่านค่ะขอบคุณรูปภาพของ Sasin Tipchai จาก Pixabay 1. I guess so สำหรับคำนี้จะไม่ได้ใช่แบบเห็นด้วย 100% กับผู้พูดแต่เป็นการเห็นด้วยบางส่วน 2. I totally agree with you. เป็นการเห็นด้วยกับผู้พูด 100 %3. Definitely หรือ I definitely agree. เป็นการเห็นด้วยอย่างยิ่งกับผู้พูด ซึ่ง Definitely คำนี้มีความหมายว่า "อย่างแน่นอน"4. Absolutely หรือ I absolutely agree. เป็นการเห็นด้วยอย่างยิ่งกับผู้พูด ซึ่ง Absolutely คำนี้มีความหมายว่า "อย่างแน่นอน" หรือ เห็นด้วยอย่างยิ่งขอบคุณรูปภาพของ StockSnap จาก Pixabay 5. Yes, you're right. ใช่!ถูกของคุณ ซึ่งเป็นการเห็นด้วยกับผู้พูด 100 %6. Exactly อย่างแน่นอน หรือถ้าพูดภาษาไม่เป็นทางการอย่างเราพูดจะมีความหมายประมาณว่า ใช่ ๆ ,ใช่เลย 7. You’re right. ใช่เลยค่ะ8. I quite agree with you. ฉันค่อนข้างเห็นด้วยกับคุณนะ เป็นการใช้แบบไม่ได้เห็นด้วยกับคุณ 100% แต่ก็ค่อนข้างเห็นด้วย9. I hope so ฉันก็หวังว่าอย่างนั้น ขอบคุณรูปภาพของ StockSnap จาก Pixabay 10. That's so true. จริงที่สุดเลย 11. That seems obvious, but… เหมือนจะใช่นะ! แต่ว่า…12. You're quite right. คุณค่อนข้างถูก (ใช้เมื่อคู่สนทนาของเราไม่ได้ถูกต้อง 100%)13. I think you are right. ฉันคิดว่าคุณทำถูก หรือ ฉันคิดว่าคุณคิดถูก14. That may be true, but… ก็อาจจะใช่นะ แต่…(ใช้เมื่อคู่สนทนาของเราไม่ได้ถูกต้อง 100%)15. That’s partly true, but… มันก็จริงอยู่ส่วนหนึ่งนะ แต่… (ใช้เมื่อคู่สนทนาของเราไม่ได้ถูกต้อง 100%)ซึ่งในหลาย ๆ ครั้งของการทำงานเรามักจะเจอสถานการณ์หลาย ๆ อย่างในการสนทนาหรือแม้แต่เวลาประชุมงานต้องมีการแสดงความคิดเห็นทั้งอาจเห็นด้วยทั้งหมด หรือเราอาจเห็นด้วยในบางส่วน หรือแม้แต่ไม่เห็นด้วยกับผู้พูด หวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับหลาย ๆ ท่าน และได้นำไปใช้ในการทำงานกับเพื่อนร่วมงาน ลูกค้าหรือ supplier ชาวต่างชาติค่ะสำหรับบทความนี้ผู้เขียนหวังว่าจะมีประโยชน์และถูกใจหลาย ๆ ท่านนะคะ ไว้พบกันคราวหน้าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรนั้น ขอฝากติดตามผลงานกันด้วยนะคะ สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนสวัสดีค่ะ ติดตามบทความอื่น ๆที่นี่ค่ะ : Diary Therapyขอบคุณรูปภาพปก : รูปภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay Diary Therapy
diary therapy • 16 ก.พ. 63
อ่าน
รีวิว ท่านหญิง อย่าชิงหย่ากับข้า DECREED BY FATE ซีรีส์จีนความรักวุ่นๆของท่านหญิงและ2ท่านแม่ทัพ
สวัสดีค่ะ🤗 วันนี้จะขอแนะนำซีรีส์จีนเรื่องใหม่ เรื่อง " ท่านหญิง อย่าชิงหย่ากับข้า DECREED BY FATE " ซีรีส์จีนที่พึ่งเริ่มออนแอร์ แนวพีเรียดโรแมนติกดราม่า เป็นซีรีส์ไม่ยาวมาก นำแสดงโดย หลีจิ่วหลิน อู๋ฉงเซวียน เฉินฟางถง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับท่านหญิงที่ต้องแต่งงานกับแม่ทัพที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน และความบังเอิญที่ทำให้ทั้งสามคนมาพบกันเพราะโชคช่วย เนื้อเรื่องสนุกดูง่าย นักแสดงงานดี น่ารัก งั้นเรามาทำความรู้จักเรื่องย่อและรีวิวสั้นๆกันก่อนเลยนะคะ 😍ท่านหญิง อย่าชิงหย่ากับข้า DECREED BY FATE เรื่องนี้ได้เริ่มออกอากาศ 31 มีนาคม 2022 ซับไทยสามารถติดตามได้ทาง iQIYI ชื่ออังกฤษ : DECREED BY FATEชื่อไทย : ท่านหญิง อย่าชิงหย่ากับข้าชื่อจีน : 千金难逃ซับไทย : iQIYI สัญชาติ : จีนประเภท : พีเรียดโรแมนติกดราม่าตอน : 16 ตอนจบเรื่องย่อแย่หรงเอ๋อร์ ท่านหญิงเป็นคุณหนูตระกูลจวนเหลียนอ๋องที่มีชื่อเสียง แต่รงเอ๋อร์กับมีชื่อเสียงไม่ดีเกี่ยวกับตัวเองว่า ไม่สมกับเป็นหญิงผู้ดีนิสัยรักความยุติธรรม ไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย ทำให้พ่อบ้านมีความเป็นกังวลพยายามให้หรงเอ๋อแต่งงานแต่ก็ล้มเหลวเพราะแผนล่มเสมอ จนวันหนึ่งหรงเอ๋อร์ได้พบกับหนุ่ม 2 คนที่รู้สึกชอบ แต่แล้วมีพระราชโองการให้หรงเอ๋อร์ต้องแต่งงานกับ หยิ่นซือเสิ้น แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ไม่ธรรมดาและมากความสามารถแห่งจิ้งอันที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน หรงเอ๋อร์พยายามหนีการแต่งงานแต่เพราะเป็นสมรสพระราชทานจึงไม่ง่ายนัก เดินไปทางเมืองเพื่อเปิดสำนักงานแม่สื่อทำเรื่องหย่าให้ตัวเอง หยิ่นซือเสิ้น ตามหาภรรยาตัวเองและได้ไปถึงเมืองที่หรงเอ๋อร์อยู่ก่อนที่จะพบกัน ความวุ่นวายเมื่อสำนักงานแม่สื่อที่หรงเอ๋อร์แอบอ้างเปิดจะโดนเปิดเผยความจริง มีหนุ่ม 2 คนได้เข้ามาช่วยเหลือและเข้าหาโดยเปิดสำนักพ่อสื่อในเมืองแต่แท้จริงแล้วพวกเขาเป็นใคร ในสองคนนี้เองอาจมีหนึ่งในนั้นเป็นสามีของเธอด้วยเช่นกันนักแสดงเฉินฟางถง รับบท เย่หรงเอ๋อ คุณหนูตระกูลดังจวนเหลียนอ๋อง ไม่ชอบถูกบังคับรักความยุติธรรม ชอบช่วยเหลือคนอื่น นิสัยร่าเริงชอบท่องเที่ยวในเมือง เพราะโดนบังคับให้ดูตัวและแต่งงานหลายครั้งเลยวางแผนทำตัวเป็นผู้หญิง ชื่อเสียงไม่ดีไม่สนกฏเกณฑ์ไม่สมเป็นคุณหนูทำให้มักโดนนินทา ไม่มีคนอยากจะแต่งงานด้วย หลี่จิ่วหลิน รับบท หยิ่นซือเสิ้น โดยนางเอกเข้าใจผิดในตอนแรกว่าเป็นนักดนตรีในกองสังคีตแต่ก็คอยเหลือหรงเอ๋อ ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูดีทั้งรูปร่างหน้าตาและหุ่น นิสัยมาดนิ่งแท้จริงแล้วเป็นแม่ทัพมาสืบคดีอู๋ฉงเซวียน รับบท ฟางเซียนสวิน แม่ทัพ ภายนอกดูเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ รูปร่างงดงาม ร่าเริงแท้จริงแล้วเป็นแม่ทัพผู้เก่งกาจ มักเผชิญหน้าอย่างอ่อนโยน มั่นใจในตัวเองตัวอย่างซีรีส์https://www.youtube.com/watch?v=tbMHp8vnm70ab_channel=iQIYI%E7%88%B1%E5%A5%87%E8%89%BAรีวิวหลังการดูการดำเนินเรื่อง หนึ่งสตรีไม่ควรมีหลายสามี แต่ตั้งแต่สมัยโบราณผู้ชายมีได้หลายภรรยา เป็นการดำเนินเรื่องของซีรีส์ที่เรามักจะเรียกว่า พระเอก พระรอง และนางเอกท่านหญิง นางเอกไม่ต้องการที่ถูกบังคับจะแต่งงานเพียงต้องการตกหลุมรักอย่างอิสระด้วยตัวเอง ชีวิตเรา เราควรกำหนดเองเป็นการเล่าที่ตัวเอกหญิงอยากจะทำตามความคิดของตน โดยปกติแล้วพีเรียดจริงหลายๆเรื่องจะเห็นว่า ครอบครัวฝ่ายหญิงและการแต่งงานจะต้องผ่านทางแม่สื่อ ตระกูลดังแค่ไหนก็ตามหรือเหมือนเรื่องนี้ที่มีการประทานสมรสให้ก็ยังเหมือนบังคับแต่ง สุดท้ายนางเอกก็ยอมพอเจอว่าที่สามีที่อาจจะดูแลดีใส่ใจ ความเป็นสุภาพบุรุษอยู่บ้างก็เกิดคิดว่าอาจจะอยู่ด้วยอีกสักพักก่อนที่จะเข้าใจผิดว่า ท่านแม่ทัพมีเรื่องผู้หญิง นางเอกจึงหนีไปต่างเมืองเพราะต้องการไปทำสัญญาหย่าดังที่เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาบ้างแล้ว หากเปิดสำนักได้ก็อาจจะได้หย่าสมรสพระราชทานแต่แล้วก็มีหนุ่ม 2 คนเข้ามาในชีวิตนางเอก การตกหลุมรักและแก้ปัญหาระหว่างสามีท่านแม่ทัพที่ไม่เคยเห็นหน้าหรืออีกหนึ่งหนุ่มที่สนใจเช่นกันตอนแรกคิดว่าเนื้อเรื่องจะเบาๆ ดูง่ายแต่การดำเนินเรื่องมีการหักมุมอยู่บ้าง เรื่องราวดำเนินไปเร็วไม่ยืดเยื้อมากแม้จะใส่ความหวานมาช่วงต้นแต่เนื้อเรื่องก็มีจุดตัดมาให้ได้ลุ้น นอกจากนี้ยังดำเนินเรื่องแบบที่เราให้เห็นว่าทำไมคนอยากหย่า การหลอกหลวง ทำร้ายนอกจากการไม่รัก หรือการแต่งงานเพื่อให้ผู้หญิงมีลูกผู้ชายให้ สอดคล้องกับความคิดในยุคปัจจุบัน ทำไมต้องแต่งงาน แต่งงานจริงๆแล้วเป็นเรื่องของใคร แต่ด้วยซีรีส์แสดงถึงยุคก่อนหน้าที่ชายยังเป็นใหญ่และการแต่งงานเป็นเรื่องของตระกูล มีส่วนดราม่าที่ทำให้เรารู้สึกเข้าข้างพระรองเสมอ 😂 คนดีที่เธอไม่รัก ทำทุกอย่างให้ แต่พระเอกก็ดี ดูแลนางเอกดีมาก พระรองสดใสน่ารักกับพระเอกมาดขรึม แต่งงานก่อนรักกันที่หลังมีเรื่องราวสืบสวนก่อนหย่าหรือการเข้ามาเปิดสำนักถือเนื้อเรื่องสนุกเล่าดี ดูได้ยาวๆไม่น่าเบื่อเคมีนักแสดงโปรดักชั่นเคมีระหว่างนักแสดงนั้นดีมากก ดีทั้ง 3 นักแสดงหลักเหมือนให้คนดูได้ลุ้นว่าจะอยู่กับใครก็ได้ด้วยนิสัยและบุคลิกของทั้งคู่ นางเอกหน้าตาน่ารักตากลมโตมาก ถือเป็นนางเอกจีนที่น่าจับตามองเล่นซีรีส์แนวนี้เหมาะ นักแสดงบางคนเราจะเคยเห็นเล่นซีรีส์อื่นบ้างแล้วแต่เรื่องนี้เล่นกันน่ารัก บทสาวใช้ข้างตัวนางเอกก็หน้าตาดี และเป็นอีกเรื่องที่โปรดักชั่นไม่เบานะคะอาจจะไม่ถึงเป็นโปรเจคยักษ์และเป็นมินิซีรีส์แต่ฉากในตลาดก็ใช้นักแสดงประกอบเยอะ ตลาดไม่ได้ดูคนน้อย แสง สีฉากดีสมกับซีรีส์จีนไม่ได้ดูเกินไปหรือแสงนวลมากนัก เพลงประกอบเพราะชุดคอสตูมเหมาะกับนักแสดงดูเป็นท่านหญิง คุณชาย ทำให้ดูได้เพลินๆเป็นซีรีส์ไม่ยาวมากตอนละประมาณ 30 นาที ดูไปกินข้าวไปช่วงพัก วันหยุดได้เลย เหมาะเป็นซีรีส์ดูสบายๆ สำหรับคนไม่ชอบดูแบบซีรีส์ยาว เนื้อเรื่องไม่เบาเกินไปสนุก มีเหตุมีผล นักแสดงหล่อน่ารัก แสดงโอเค แนะนำเลยนะคะ 😍บทความอื่นๆที่มีเนื้อหาคล้ายกัน😍รีวิว "ตงกงตำหนักบูรพา Good Bye My Princess" ซีรีส์ดราม่าปวดตับ! ( เฉินซิงซวี่,เผิงเสี่ยวหรัน แสดงนำ)ชวนดู+รีวิว " Designated Love รักนี้ดีไซน์ได้ " ระบบเกมเอาคืนแฟนเก่า ซีรีส์จีนโรแมนติก คอมเมดี้รีวิวซีรีส์ รักแรกอลวน First Love Again ซีรีส์โรแมนติกดราม่า แนวย้อนเวลาแก้ไขอดีต ห้ามคัดลอกเนื้อหาโดยไม่ได้รับอนุญาต mybl.sugarCredit รูปและคลิปคลิปตัวอย่าง iQIYI : 1网剧千金难逃 : รูปภาพที่ 1 / 2 3 4 / 5 / 6 / 7 หน้าปกเกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !
MysugarNEWS • 4 เม.ย. 65
อ่าน
รีวิว : 3 รสชาตินมถั่ว 137 Degrees
ตุ่นอะไร...ตุ่นอะไร...ตุ่นอะไร..มาตุ่นนมถั่วฮ่าๆ จากสถานการณ์แบบนี้ เราต้องหันมาบำรุงสุขภาพกันเถอะ วันนี้ Kanny จะพาทุกคนไปรู้จักกับนมถั่ว 137 Degrees ซื้อกันได้ที่ร้านสะดวกซื้อ Kanny ไปสอยมาจาก Big C แถวบ้านได้มา 3 รสชาติมี Almond, Pistachio และ Walnut มาทำความรู้จักกันเถอะ 1) Almond Milk นมอัลมอนด์สูตรนี้ไม่มีน้ำตาล ถูกใจสายคลีนแน่นอน อึกแรกที่ลองไม่มีความเหม็นเขียวถั่วเลย รสชาติเฝื่อนๆ จืดสนิท คล้ายดื่มน้ำเปล่า นมอัลมอนด์มีคุณค่าทางสารอาหาร โดยเฉพาะวิตามิน B, E และ Antioxidants ช่วยเสริมสร้างสมองและบำรุงผิวหนัง 2) Pistachio Milk นมพิสตาชิโอรสชาติออกไปทางจืดและออกมันๆ ที่เด่นสุดเลยคือกลิ่นเฉพาะตัวมาก กลิ่นถั่วติดปลายลิ้นขึ้นจมูกเลย แต่ส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบฮ่าๆ อีกใจหนึ่งก็คิดว่ามันมีประโยชน์กินไปๆ นมพิสตาชิโอมีคุณค่าทางสารอาหารโดยเฉพาะฟอสฟอรัสและแมกนีเซียม เนื่องจากมีไขมันไม่อิ่มตัวสูงจะช่วยลดไขมันชนิดเลวและเสริมสร้างไขมันชนิดดี ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย และยังมีวิตามินบี 6 ที่ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย 3) Walnut Milk นมวอลนัทรสชาติกลางๆ ไม่หวานแต่ก็ไม่จืดและสัมผัสได้ถึงความมันหอม ไม่เหม็นหื่นถั่วนมวอลนัทหรือนมถั่วสมอง มีคุณค่าทางสารอาหาร โดยเฉพาะวิตามินอีและฟลาโวนอยด์ ซึ่งช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม และยังมีโอเมก้า 3 ซึ่งมีสารเมลาโทนิน ช่วยทำให้การทำงานของระบบสมองสมดุลขึ้น การดื่มนมถั่วที่หลากหลายเป็นประจำทุกวัน จะช่วยบำรุงสุขภาพร่างกาย ถั่วชนิดไหนจุดเด่นบำรุงอะไรจำง่ายๆ นมอัลมอนด์ ช่วยบำรุงผิวพรรณ นมพิสตาชิโอ ช่วยลดไขมันชนิดเลว บำรุงหัวใจ นมวอลนัท มีโอเมก้าสูง ช่วยบำรุงสมอง ประโยชน์มากมายขนาดนี้ แถมหาซื้อได้ไม่ยากและง่ายต่อการบริโภคดูดปื๊ดๆ แป๊ปเดียวได้ประโยชน์เต็มๆลองซื้อมาทานกันนะคะ เราจะแข็งแรงไปด้วยกัน ไว้เจอกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ^^ ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.137degrees.net/healthbenefits https://www.naewna.com/lady/357336 https://positioningmag.com/1178240 📷 : เครดิตภาพของผู้เขียน สามารถติดตามผู้เขียนได้ทาง https://www.facebook.com/kannika.vingcharoen
Kanny • 7 เม.ย. 63
อ่าน
รีวิว น้ำแร่ธรรมชาติ ที่มีชื่อว่า "6tyº Sixty Degrees "
รู้หรือไม่ว่าการดื่มน้ำนั้นมีประโยชน์มากน้อยเพียงใด ทำไมเราต้องดื่มน้ำให้เพียงพอให้แต่ละวัน และการได้ดื่มเปล่าที่สะอาดก็ย่อมส่งดีต่อสุขภาพ เช่นทำให้ร่างกายไม่เสียสมดุล ผิวพรรณสดใส อารมณ์แจ่มใสและส่งดีต่อสุขภาพอื่นๆอีกมากมาย วันนี้เลยเลือกเลือกน้ำดื่มน้ำแร่ธรรมชาติมาฝากเพื่อนๆ เป็นน้ำแร่ธรรมชาติที่มีชื่อว่า "6tyº" น้ำดื่มจากแหล่งธรรมชาติจากน้ำพุเชียงดาว ในร้านสะดวกซื้อทั่วไปหรือที่เซเว่นทุกสาขาก็มีขายแล้วเช่นกัน ทำไมถึงเป็นน้ำแร่ธรรมชาติ 6tyº ขวดนี้ มาฟังคำตอบกันค่ะน้ำดื่มจากแหล่งธรรมชาติคืออะไร? น้ำที่ผุดเกิดขึ้นได้จากแหล่งธรรมชาติทั่วไป เช่น แม่น้ำ ลำคลอง ซึ่งน้ำแร่ที่เกิดขึ้นแบบนี้จะมีแร่ธาตุที่สำคัญโดยไม่ต้องผ่านกรรมวิธีการแต่งเติมเข้าไปในน้ำนั่นเอง ในน้ำแร่ธรรมชาติจะพบแร่ธาตุที่สำคัญนั่นก็คือ แคลเซียม คลอไรด์ ฟลูออไรด์ โซเดียม โพแทสเซียม ไอโอดีน กำมะถัน แมกนีเซียม แร่ธาตุเหล่านะขึ้นอยู่กับแหล่งที่มานั้นๆ ซึ่งแร่ธาตุเหล่านี้จะส่งผลดีต่อลำไส้ กระดูกและฟัน รวมถึงหัวใจ นั่นเอง6tyº ทำไมเราถึงเลือกขวดนี้ เพราะเป็นน้ำแร่จากแหล่งน้ำธรรมชาติจากแหล่งน้ำพุร้อนเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ขนาดขวดไม่เล็กไม่ใหญ่พกพาง่าย ติดกระเป๋าได้แบบสบายๆขนาด 520 มิลลิลิตร ราคาขวดนี้อยู่ที่ 12 บาท ขวดมีสีฟ้า สลากน่าดูน่าอ่าน บอกความเป็นมาของน้ำขวดนี้อย่างชัดเจน ถ้ามองทะลุขวดเข้าไปข้างในจะเห็นรูปภูเขาสวยๆด้านใน และในเวลาที่เราต้องเดินทางไกลบ่อยๆบางทีเราก็เลือกน้ำดื่ม 6tyº ขวดนี้แหละ บวกกับน้ำดื่มน้ำเปล่าให้เพียงต่อร่างกาย อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ทำไมถึงต้องมีน้ำแร่ด้วย เพราะถ้าเรารู้สึกเหนื่อยหรือไม่สดชื่นถ้าได้ดื่มน้ำแร่ก็จะช่วยให้เราสดชื่นได้เร็วขึ้น ร่างกายจะกระปรี่กระเปล่าเร็วขึ้นมากกว่าการดื่มน้ำเปล่าธรรมดา เราก็เลยเลือกที่จะติด 6tyº ติดกระเป๋าเวลาที่เดินทางบวกกับน้ำเปล่าด้วย คือเราไม่ดื่มแค่น้ำแร่ 6tyº เราจะดื่มน้ำเปล่าด้วย โดยดื่ม 6tyº แค่วันละขวด ถ้าเดินทางไกลแค่นั้น เพราะถ้าดื่มน้ำแร่มากไปก็อาจจะส่งผลไม่ดีต่อร่างกายได้ พูดถึงเรื่องดีของการดื่มน้ำแร่กันก่อน นอกจากจะช่วยทำให้ร่างกายของเราสดชื่นแล้ว ยังช่วยทำให้ผิวของเราชุ่มชื้นขึ้นมากด้วย รสชาติของน้ำอร่อยไม่มีกลิ่น ยังช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญด้วยนะ ใครที่ไม่ชอบทานผักหรือท้องผูกบ่อย ก็มีส่วนช่วยทำให้ขับถ่ายได้ดีด้วยแต่ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าธาตุของแต่ละคนด้วยนะ ว่าจะได้ผลมากน้อยเพียงไหน ไม่ได้มีดีแค่นี้ เราจะได้สัมผัสเรื่องดีๆตั้งแต่เปิดขวดเลยก็ว่าได้ เพราะปกติแล้วขวดน้ำโดยทั่วไป เมื่อเราเปิดฝา ฝาจะหลุดออกจากขวดเองแต่สำหรับ 6tyº นั้นไม่ ไม่เป็นแบบนั้น เมื่อเราเปิดฝาฝาขวดจะติดอยู่ที่ปากเลย ไม่ต้องหาฝาขวดให้ยาก แถมเปิด - ปิดง่าย ไม่ต้องแยกจากกันแล้วนะ ขวดก็ไม่หนาหรือบางจนเกินไปจับถนัดมือพอดีด้วย อย่างเท่เลยทีนี้ ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้ มันพร้อมจบในขวดเดียวเลยแหละกับน้ำแร่ธรรมชาติที่มีชื่อว่า 6tyº แต่ แต่ แต่!!! เดี๋ยวก่อน??? การดื่มน้ำเป็นเรื่องที่ดีและมีความจำเป็นต่อร่างกายเรามาก ทั้งนี้การดื่มน้ำแร่ธรรมชาติมากเกินไปก็อาจส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพได้เช่นกัน เพราะถ้าเราคิดว่าน้ำแร่ธรรมชาติมันดีก็ดื่มแต่น้ำแร่ธรรมชาติมันก็ดีค่ะมันก็ได้ค่ะ แต่น้ำแร่ธรรมชาติมีแร่ธาตุต่างๆที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่ถ้าได้รับมันมากเกินไปก็จะทำให้ร่างกายของเราเกิดอาการท้องไส้ปั่นป่วนได้ เพราน้ำแร่โดยส่วนมากจะถูกบรรจุมาในภาชนะขวดพลาสติก ซึ่งในขวดพลาสติกอาจมีการปนเปื้อนของไมโครพลาสติกอยู่และอาจส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพได้ ดังนั้น เราจึงควรดื่มน้ำแร่สลับกับน้ำเปล่าธรรมดา โดยดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอในแต่ละวัน อย่างน้อย 8 แก้ว และน้ำแร่ประมาณ 1 ขวดหรือ 2-3 แก้วต่อวัน หรือนานๆจะดื่มน้ำแร่ธรรมชาติก็ได้ค่ะ "6tyº น้ำแร่ธรรมชาติ" โดยรวมแล้วเราชอบตั้งแต่ขวด ตัวหนังสือและแหล่งที่มาให้อ่านกันแบบเพลินๆ ฝาขวดอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่ยอมแยกออกจากตัวขวด เหมือนขวดน้ำแบบอื่นๆ ดื่มเพลินดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น ดื่มง่ายไม่มีกลิ่นคาวแต่อย่างใด ราคาก็ถือว่าโอเค สะดวกต่อการซื้อไม่แพงจนเกินไป และความอยากลองอีกเช่นเคยดื่มแล้ว ให้กี่คะแนนดี 10/10 ละกัน ใครชอบและอยากดื่มก็ไปหาซื้อกันได้ ที่ร้านสะดวกซื้อ เซเว่นก็ได้ ราคาขวดละ 12 บาท สุดท้ายนี้เราหวังว่าเพื่อนๆจะชื่นชอบบทความบทนี้ และเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆไม่มากก็น้อยนะคะ ภาพปก ออกแบบจากCanvaโดยผู้เขียนบทความภาพประกอบบทความทั้งหมดโดยผู้เขียนบทความ หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !
downyjuang993 • 7 ม.ค. 67
อ่าน
อัพเดท COM7 มีอะไรใหม่?
#ทันหุ้น - บล.เคจีไอ ส่องหุ้น บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 คาดว่าน่าจะได้อานิสงส์จำกัดจากมาตรการ Easy E-receipt ด้านยอดขาย อัตรากำไรมีความเสี่ยงจากประเด็นการลงแอพฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต และกำไรกลับมาโตในระดับปกติ ฝ่ายวิจัยจึง de-rate PER ลงจากเดิม 22.0X เหลือ 18.0X และปรับลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ลงจากเดิม 31.00 บาท เหลือ 23.00 บาท โดยยังคงคำแนะนำ ถือ COM7 ฝ่ายวิจัยประมาณการ Q4/67 คาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 802 ล้านบาท (+20% YoY, +13% QoQ) เนื่องจาก ยอดขายดีในช่วง high season ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิในปี 2567 อยู่ที่ 3.1 พันล้านบาท (+8% YoY) ฝ่ายวิจัยคาดว่ายอดขายใน Q4/67 จะอยู่ที่ 2.14 หมื่นล้านบาท (+7% YoY, +19% QoQ) ซึ่งจะทำให้ยอดขายปี 2567 อยู่ที่ 7.7 หมื่นล้านบาท (+11% YoY) จากปัจจัยฤดูกาล ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกประเมินว่ายอดจดัส่ง smartphone ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 3% YoY ใน Q4/67 (นำโดย Apple) ซึ่งจะทำให้ยอดจัดส่ง smartphone ทั่วโลกในปี 2567 เพิ่มขึ้น 7% YoY ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นใน Q4/67 จะอยู่ที่ 12.6% (+1ppts YoY, - 0.7ppts QoQ) เนื่องจากยอดขาย iPhone มีน้ำหนักมากขึ้น เมื่อเทียบกบัยอดขายรวม น่าจะได้อานิสงส์จำกัดจากมาตรการ Easy e-receipt โดยมีความเสี่ยงจากการที่ smartphone ของ OPPO และ Realme ลงแอพฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่ายวิจัยยังคงมองว่า COM7 จะได้อานิสงส์จำกัดจากมาตรการ easy E-receipt เพราะวงเงินการใช้จ่ายตาม โครงการลดลง (จาก 50,000 บาทใน Q1/67 เหลือ 30,000 บาทใน Q1/68) นอกจากนี้ ยังมองว่ามีความเสี่ยงจากกรณีการติดต้้งแอพฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต (Fineasy และ Happy Loan) ในเครื่อง smartphone แบรนด์ OPPO และ Realme ซึ่งสื่อในประเทศรายงานว่าคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ได้สั่งห้ามขายเครื่องรุ่นใหม่ที่มีการลงแอพฯ เหล่านี้ไว้ และประสานงานกับทั้งสองบริษัทให้ถอนแอพฯ นี้ออกไปจากเครื่อง ซึ่งคาดว่าประเด็นนี้น่าจะไม่เพียงแต่จะกระทบยอดขายของ COM7 เท่าน้้น (ยอดขายแบรนด์ OPPO และ Realme ของ COM7 เทียบกับยอดขาย รวมเป็นเลขหลักเดียว) แต่การหยุดจำหน่ายยังจะกระทบกับสินค้าคงคลัง ซึ่งอาจจะทำให้ต้องตั้งสำรอง สำหรับสินค้าตกรุ่น และจัดโปรโมชั่น เพื่อฟื้นยอดขาย หั่นการกำไร และ de-rate PER ลง ฝ่ายวิจัย ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568 ลง 10% เพื่อสะท้อนถึง i) ประมาณการยอดขายลดลง 5% จาก ผลกระทบกรณีของ OPPO และ Realme และ ii) การปรับลดอตัรากำไรขั้นต้นลง 40bps เพื่อสะท้อนถึง ผลกระทบจากการจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย โดยคาดว่ากำไรสุทธิของ COM7 จะทรงตัวในปีนี้และจะเพิ่มขึ้น 10% ในปี 2569 โดยคาดว่ากำไรอาจจะโตได้ในช่วงเลขหลักเดียว หรือ สองหลักต่ำๆ จากฐานที่สูงของเครือข่ายร้านค้า (ผลกระทบต่ำจากการขยายสาขาร้าน) และการแข่งขันที่สูงขึ้นจากผู้เล่นรายใหม่ ดังนั้น ฝ่ายวิจัยจึง de-rate PER ลงจากเดิม 22.0X (ค่าเฉลี่ยในอดีต -0.5 S.D.) เหลือ18.0X (ค่าเฉลี่ยในอดีต -1.0 S.D.) เพื่อสะท้อนถึงกำไรที่กลับมาโตในระดับปกติ หั่นเป้าสิ้นปี 68 เหลือ 23 บ. แนะถือ พร้อมปรับลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ลงจากเดิม 31.00 บาท เหลือ 23.00 บาท อิงจาก PER ที่ 18.0X และคงคำแนะนำ ถือ Risks อุปสงค์ smartphones ต่ำเกินคาด, รายได้จากการขายอุปกรณ์เสริมต่ำกว่าที่คาด, และมีการจัดรายการ ส่งเสริมการขายมากกว่าที่คาดไว้
ทันหุ้น • 10 ก.พ. 68
อ่าน
รีวิว น้ำดื่มลดโลกร้อน SIXTY DEGREES เซเว่น จากน้ำพุร้อนเชียงดาว
รีวิว น้ำดื่มลดโลกร้อน SIXTY DEGREES เซเว่น จากน้ำพุร้อนเชียงดาว🌍คนรักสิ่งแวดล้อมหรือมีใจอยากลดมลพิษจากการใช้ชีวิตประจำวัน มักมองหาวิธีการหรือหนทางหรือแนวทางที่จะทำให้ตัวเองได้ทำอะไรสักอย่างดีๆ ต่อโลกของเราค่ะ น้ำดื่มลดโลกร้อนคืออีกตัวอย่างดีๆ ที่ผู้คนเริ่มให้ความสนใจมากขึ้น และหนึ่งคนในนั้นคือตัวผู้เขียนเองค่ะ น้ำแร่ตามธรรมชาตินอกจากจะดีต่อสุขภาพจากแร่ธาตุต่างๆ แล้ว ปัจจุบันนี้น้ำดื่มประเภทน้ำแร่ได้มีการพัฒนาอย่างมาก🆗️โดยล่าสุดผู้เขียนมีโอกาสได้เจอกับน้ำดื่มลดโลกร้อนซิกตี้ ดีกรีค่ะ น้ำแร่ SIXTY DEGREES เป็นน้ำแร่ 100% จากแหล่งน้ำพุร้อนเชียงดาวค่ะ โดยมีวางขายแล้วอยู่ในเซเว่น น้ำแร่ SIXTY DEGREES ผลิตโดยบริษัท แร่เบฟเวอเรจ จำกัด ตั้งอยู่ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ค่ะ ราคา 12 บาท ได้น้ำแร่ 520 มิลลิลิตร หรือถ้าจะพูดให้เห็นภาพหน่อยก็ประมาณครึ่งลิตรกับอีกนิดหน่อยค่ะ ซึ่งราคายังสามารถจับต้องได้ค่ะ จริงๆ ต้องบอกว่าผู้เขียนไม่ได้ดื่มน้ำแร่ SIXTY DEGREES ทุกวัน แต่ที่นำมารีวิวก้เพื่อติดตามเรื่องน้ำแร่เพราะสนใจเกี่ยวกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเกี่ยวกับน้ำดื่มค่ะ👌น้ำแร่ SIXTY DEGREES คือตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่สามารถเสริมเกลือแร่ให้กับร่างกายได้ค่ะ เพราะมีแร่ธาตุหลายชนิดมาก ดังนี้👇แมกนีเซียมโพแทสเซียมไบคาร์บอเนตซิลิก้าแคลเซียมฟลูออไรด์นอกจากนี้น้ำแร่ SIXTY DEGREES ยังจัดว่าเป็น Alkaline water ด้วย เพราะค่าความเป็นกรดและด่าง (pH) มากกว่า 7 แต่ด้านข้างขวดไม่ได้ระบุว่าพีเอชมีค่าเท่าไหร่ค่ะ และน้ำแร่ SIXTY DEGREES ผ่านมาตรฐาน HACCP มาตรฐาน อย. รวมทั้งยังได้รับรางวัล SUPERIOR AWARD 2023 โดยรางวัลนี้คือการได้รับการรับรองที่ออกโดยสถาบัน International Taste Institute จากประเทศเบลเยี่ยม สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่ผ่านการประเมินว่ามีรสชาติเชิงบวกจากคณะทำงานระดับโลกค่ะทุกคน✅️และหลังจากที่ผู้เขียนได้ลองดื่มน้ำแร่ SIXTY DEGREES แล้ว พบว่า น้ำไม่มีกลิ่นค่ะ ใส ในขวดไม่มีตะกอนนอนก้น และดื่มแล้วไม่ทำให้ใจสั่น ปวดหัวหรือรู้สึกผิดปกติอะไรค่ะ ก็ดื่มได้ตามปกติเหมือนน้ำดื่มทั่วๆ ไปค่ะ และคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า น้ำแร่ SIXTY DEGREES มีการออกแบบขวดที่ใช้พื้นที่ในการทำสติ๊กเกอร์น้อย ฝาขวดถูกล็อกไว้ไม่ให้หลุดออกจากตัวขวด และนี่คือความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ที่พบได้ในน้ำแร่ SIXTY DEGREES ค่ะ เพราะการที่ฝาปิดขวดไม่หลุดทำให้เราไม่สูญเสียสิ่งที่สามารถรีไซเคิลได้ เพราะหลายๆ ครั้งเรามักทิ้งฝาขวด หาไม่เจอหรือขี้เกียจปิดคืน แต่น้ำแร่ SIXTY DEGREES แก้ปัญหาเรื่องนี้ให้แล้วค่ะ🌍✅️และนี่คือจุดเด่นที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดค่ะ เพราะเราสามารถนำฝาขวดของน้ำแร่ SIXTY DEGREES มาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลภายในประเทศได้แบบง่ายๆ ค่ะ จึงทำให้พอซื้อมาดื่มเลยได้บ่งบอกความเป็นตัวตนของผู้เขียนที่สนใจด้านสิ่งแวดล้อมค่ะ และการที่ฝาขวดติดอยู่สามารถช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงฝาเล็กๆ แต่ถ้าหลายฝาหลายคนร่วมด้วยช่วยกันโลกเราก็น่าอยู่ขึ้น ลดมลพิษ ลดขยะและเพิ่มการรีไซเคิลได้ค่ะ🌍อย่างไรก็ดีค่ะน้ำแร่ SIXTY DEGREES เป็นความชอบส่วนบุคคลหากพูดในกรณีของการได้รับแร่ธาตุ เพราะถึงแม้ว่าบางคนจะไม่ได้ดื่มน้ำแร่ SIXTY DEGREES แต่ยังสามารถได้รับแร่ธาตุข้างต้นจากอาหารชนิดอื่นได้ด้วยเหมือนกันค่ะ และถึงแม้ว่าร่างกายของเราจะต้องการแร่ธาตุเพียงเล็กน้อย เพื่อสนับสนุนให้กระบวนการทางชีวเคมีในร่างกายทำงานได้ตามปกติก็ตาม แต่การดื่มน้ำแร่ SIXTY DEGREES สามารถช่วยอุดรอยรั่วที่เราอาจได้รับไม่เพียงพอจากอาหารที่เรากินในแต่ละมื้อค่ะก็เท่านั้นเองค่ะ🆗️น้ำแร่ SIXTY DEGREES ขวดสวยค่ะ ถือได้สะดวกเปิดใช้ง่าย ขวดทำจากพลาสติกแบบบาง และข้างขวดมีคิวอาร์โค้ดเพื่อแสกนและดูข้อมูลเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์ค่ะซึ่งสะดวกมากๆ การเก็บน้ำแร่ SIXTY DEGREES ควรเก็บน้ำแร่ให้พ้นจากแสงแดดค่ะ และน้ำแร่ SIXTY DEGREES มีวันหมดอายุอยู่ใกล้กับคอขวดค่ะ ที่มีคำขึ้นต้นด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษและตามด้วยวันเดือนและปี ค.ศ. ค่ะ เช่น BF 05/08/2025 ซึ่งหมายความว่าน้ำขวดนี้จะหมดอายุในวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2568 ค่ะ✅️และทั้งหมดคือเนื้อหาเกี่ยวกับน้ำแร่ SIXTY DEGREES ค่ะ หากใครชอบและสนใจอยากลองดื่มต้องลองแวะไปที่เซเว่นหน้าปากซอยค่ะ เพราะน้ำแร่ SIXTY DEGREES หาได้ง่ายมากๆ ที่ตู้แช่น้ำเย็นค่ะ พอเปิดฝาขวดแล้วดื่มเลยสดชื่นมากๆ ค่ะ โดยไม่ต้องกังวลว่าฝาขวดจะหล่นหายเพราะติดขวดอยู่ ข้อนี้ดีจริงๆ เลยค่ะ และหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านที่กำลังมองหาน้ำแร่ในเซเว่นค่ะ หากชอบบทความแบบนี้อีกอย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความอื่นๆ ที่จะได้นำมาอัปเดตในเร็วๆ นี้ค่ะ ส่วนจะเป็นเรื่องไหนนั้นต้องรอติดตามค่ะ😁เครดิตภาพประกอบบทความถ่ายภาพโดย ผู้เขียนออกแบบภาพหน้าปกใน Canvaบทความอื่นที่น่าสนใจรีวิวน้ำแร่ธรรมชาติ 100% ซีเล็คเซเว่น น้ำแร่จากแหล่งหินกรวดภูเขาไฟรีวิวน้ำแข็งยูนิต ในเซเว่น วิเคราะห์ความเสี่ยงด้านสุขภาพจากน้ำแข็งรีวิวน้ำแร่มิเนเร่ เซเว่น น้ำแร่ธรรมชาติ 100% ด้วยเทคโนโลยีประเทศฝรั่งเศส7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์
Pchalisa • 11 ก.ย. 66
อ่าน
ถ้ารถไม่นิ่ม แล้วยังจะนั่งไหม? Review by Saliology
:::Review Cusco Stabilizer full set for Alphard30::: by Saliology เขียนไว้เป็นข้อมูลเผื่อเพื่อนๆที่ใช้รถตู้ยอดนิยม อย่าง Alphard เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง ที่มา ที่ไป และทำไม...ถ้าใครที่ใช้รถตู้อัลพาทอยู่ หลายๆคนพูดว่า นั่งพรมวิเศษ... เพราะรถมันนิ่ม เรื่องนี้ปฏิเสธไม่ได้จริงๆกับความนิ่ม แต่สิ่งที่แลกมาคือ นิ่ม แล้ว โยน + โคลงเคลง นึกภาพเหมือนนั่งเรือ สำหรับผมที่ต้องใช้เส้นบูรพา บ่อยๆ เจอทั้งลมแรง ทั้งรถโยน บอกเลยว่าไม่ตอบโจทย์จริงๆ พอเจอไม่กี่ครั้ง ก็ลองไปหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ว่าคนอื่นเค้าแก้กันอย่างไรกับเรื่องนี้ก็เริ่มจาก เปลี่ยนโช๊คอัพKYB SR ให้แข็งขึ้น ถามว่า แข็งมากไหม? นั่งไป 3ชม. ก็ลืม... ไม่ได้แข็งสักเท่าไหร่ถามว่า พอใจไหม? ก็พอได้ แต่ยังไม่พอใจนัก ติดกันโคลง+ปลอกหมุดยึดทั้งคัน ให้รถมีความแน่นขึ้น ช่วยลดอาการโคลงเคลงได้ในระดับนึง... ถามว่า พอใจไหม? ก็ดีขึ้น และใช้งานแบบนี่ได้ถือว่าดีทีเดียว หลังจากผ่านมาอีก หมื่นกม. สุดท้ายตัดสินใจสั่งชุดค้ำทั้งคันเข้ามา ติดตั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน และใช้มาสักพักก่อนจะเขียนบทความนี้ ชุดค้ำตัวถัง Cusco ทั้งชุด ของอัลพาท มี 9 ชิ้นแบ่งเป็น ชุดค้ำแชสซี ชุดค้ำโช๊ค หน้า-หลัง และ ชุดกันโคลง น้ำหนักเบา กว่าของเดิมติดรถ และมีเส้นผ่าศูนย์กลางที่ใหญ่กว่าเดิม ส่งผลให้ การให้ตัวน้อยกว่าเดิม (แข็งขึ้น) หลังติดตั้ง สิ่งที่พบคือ1. ตัวรถ สะท้าน แรงจากแชสซี มากขึ้นแบบรู้สึกได้ ถ้าถนนขรุขระ หรือ ถนนเรียบ ตัวรถจะสื่อสารกับเราชัดขึ้น เปรียบแต่ก่อน เป็นเยลลี่ สองชิ้นทับกัน ข้างล่างสั่น ข้างบนจะรับแรงมาเบาๆ ทำให้รถนิ่ม ข้อเสียคือ รถโคลงเคลงมาก ตอนนี้ รถเหมือนยึดให้แน่นเป็นชิ้นเดียว ข้างล่างสั่น ก็สั่น แต่พอหยุด ก็หยุด ไม่โคลงไปเคลงมา 2. พวงมาลัย ตอบสนองต่อโค้ง ขึ้นชัดเจน ไม่หนีโค้ง เหมือนแต่เดิม แน่น และนิ่ง มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด3. วิ่งบนความเร็ว 110-120 อาการวูบวาบ ปลิวๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด วันนี้ พอใจกับตัวรถมากขึ้น ใช้งานรู้สึก ปลอดภัยขึ้น มีการควบคุมรถได้ดีขึ้นมาก โดยเฉพาะย่านความเร็ว100ขึ้นไปสิ่งที่ต้องแลกมาคือ ความนุ่มนวล ที่หายไปประมาณนึง ถามว่าคุ้มไหมที่ต้องแลกมา? สรุปสั้นๆว่า ถ้า ใช้ทางไกลบ่อยใช้ความเร็ว 100-120 บ่อย เป็นทางเลือกที่ดีครับถ้าใช้แต่ในเมือง เจอแต่รถติด ขับเดิมๆไปก็นิ่มดีถ้าใครใช้อยู่ แล้วไม่พบว่าเป็นปัญหา ก็ไม่ต้องลำบากไปเสียเงิน แต่ถ้าใครใช้อยู่ แล้วติดอยู่ในใจว่า “รถมันเกือบจะดี” ไปลองทำโช๊ค ก่อนได้ครับ ส่วนใครคิดจะซื้อรถตู้หรูๆ มาใช้งาน บอกเลยไปเช่ามาใช้ก่อนวันนึง อาจจะให้คำตอบอะไรได้หลายๆอย่างเพราะ รถ ซื้อแล้วมีแต่ ลด ฝากไว้เป็นข้อมูลขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาเข้ามาอ่านสวัสดีครับSaliologyปล. เสิร์ชหา ราคา หาอู่กันตามสะดวก กูเกิล มีทุกสิ่ง แต่คำโฆษณา มันมักจะเกินจริงไปหน่อย โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพ รูปทุกภาพเป็นของผมเองครับอัปเดตบทความไลฟ์สไตล์โดนๆ ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !
Saliology • 26 ก.ค. 64
อ่าน
ส่อง 3 นักแสดงนำ เส้นลองจิจูดที่ 180 องศา ลากผ่านเรา 180 Degree Longitude
หลังจากที่ซีรีส์เรื่อง เส้นลองจิจูดที่ 180 องศา ลากผ่านเรา 180 Degree Longitud ออนแอร์ไปแล้ว ซึ่งเชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะตกหลุมรักในความน่ารักของนักแสดงนำ และความลับของเนื้อเรื่องไปแล้ว และวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 3 นักแสดงนำ แหม่ม คัทลียา / ไนกี้ นิธิดล / ปอนด์ พลวิชญ์ กันค่า~ https://www.instagram.com/p/CckRoz-POE8/?igshid=YmMyMTA2M2Y= แหม่ม คัทลียา แมคอินทอช เริ่มต้นที่คนแรก แหม่ม คัทลียา แมคอินทอช เกิดวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 ปัจจุบันอายุ 49 ปี เป็นคุณแม่สุดสวยที่มีลูกๆ ถึง 3 คนด้วยกัน ในด้านวงการบันเทิง คุณแหม่มเป็นทั้งพิธีกร และนักแสดงที่มีชื่อเสียงมายาวนาน การันตีด้วยรางวัลมากมายจากหลากหลายสถาบัน และด้วยลุครวมถึงบุคลิกภายนอกที่ดูสวย สง่างามราวกับเจ้าหญิง ทำให้แหม่ม คัทลียา ได้รับฉายาว่า เจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิง โดยจากฉายาที่แหม่มคัทลียาได้รับนั้น ก็ทำให้ส่วนใหญ่เรามักจะได้เห็นเธอในบทบาทของผู้หญิงที่ดูมีอำนาจ สง่างาม หรือบทเด่นที่เป็นตัวละครสำคัญของเรื่อง มีภาพจำติดตา และวลีติดปากมาจากละครเสมอ ยกตัวอย่าง เช่น ผลงานของคุณแม่แหม่มในปี 2565 นี้ที่เพิ่งจบไป ก็มีเรื่อง สิเน่หาส่าหรี ทางช่อง one31 ในบทของ มหารานีศศิประไพ มหารานีผู้สูงศักดิ์ที่ทั้งสง่างาม และทรงพลัง https://www.instagram.com/p/CfbClkyPn6g/?igshid=YmMyMTA2M2Y= และสำหรับเรื่องล่าสุดที่กำลังออนแอร์ คือเรื่อง เส้นลองจิจูดที่ 180 องศา ลากผ่านเรา 180 Degree Longitud แหม่ม คัทลียา รับบท ศศิวิมล คุณแม่สวยแซ่บสายสตรองของแวง ซึ่งลุคในละครกับในซีรีส์ก็ไม่ได้ต่างกับลุคตัวจริงมาก เพราะคุณแม่ศศิวิมลนั้นดูเป็นคุณแม่ที่ยังสาว มั่นใจในตัวเอง ดูล้นๆ พลังเยอะ และเป็นคุณแม่ที่ห่วงลูกมาก แต่ครั้งนี้เราก็ต้องมารอลุ้นว่า ถ้าคุณแม่รู้ว่าลูกชายและเพื่อนรักของตัวเองมีความรู้สึกดีต่อกัน จะเกิดอะไรขึ้น! และสำหรับใครที่อยากติดตามไลฟ์สไตล์หรือผลงานอื่นๆ ของแหม่ม คัทลียา ก็สามารถไปติดตามได้ที่ Instagram : mcintosh เลยจ้า- https://www.instagram.com/p/Cf6NjZSPQH0/?igshid=YmMyMTA2M2Y= ไนกี้ นิธิดล ป้อมสุวรรณ ไนกี้ นิธิดล ป้อมสุวรรณ เกิดวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2531 ปัจจุบันอายุ 33 ปี ไนกี้เริ่มมีผลงานในวงการบันเทิงครั้งแรก คือ งานโฆษณา ตามต่อด้วยมิวสิควิดีโอ และเป็นที่รู้จักมากขึ้นผ่านผลงานละครทางช่องวันในบทบาทของ พ่อสุข จากละครเรื่องเรือนเสน่หา ซึ่งหลังจากนั้นก็มีผลงานละครรับบทพระเอกในละครเรื่องต่อๆ มา โดยไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ไนกี้ เป็นคนชอบแต่งตัวสบายๆ เมื่อก่อนเขาเป็นคนรักสนุก แต่ปัจจุบันชอบเข้าวัด ทำบุญ ซึ่งเห็นได้จากรูปต่างๆ บน social media ที่มีรูปไปทำบุญในรูปแบบต่างๆ สลับกับรูปจากกองถ่ายละครจ้า และสำหรับผลงานของ ไนกี้ ธนดล ที่เพิ่งจบไปหมาดๆ ในปี 2565 ทางช่อง8 เรื่อง เล่ห์ลุนตยา นี้ ก็เป็นซีรีส์อีกเรื่องที่ทำให้เราตกหลุมรักเสน่ห์การแสดงของไนกี้ โดยละครเรื่องนี้ เป็นละครในเซ็ทซีรีส์ผ้าบทประพันธ์ของคุณหมอพงศกรประกบกับนางเอกสาวที่ย้ายข้ามช่องมาอย่าง วาววา ณิชารีย์ ที่เคมีดีมากกกก https://www.instagram.com/p/Cfa7WKXBMQO/?igshid=YmMyMTA2M2Y= และสำหรับเรื่องล่าสุดในปีนี้ที่กำลังออนแอร์อยู่ คือ เส้นลองจิจูดที่ 180 องศา ลากผ่านเรา 180 Degree Longitud ซึ่งไนกี้รับบทเป็น อินทวุธ เพื่อนเก่าของศศิวิมล หรืออาอิน ของแวง โดยซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ไนกี้มาร่วมแสดงในซีรีส์วายแบบเต็มตัว ถึงแม้ว่าจะเพิ่งออนแอร์แต่กระแสก็มาแรง ด้วยบทบาทที่รับต้องสวมบทเป็นผู้ใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก ซึ่งไนกี้ก็ทำให้เราเชื่อว่าเขาคือ อินทวุธ เพื่อนสนิทของศศิวิมล และเมื่ออยู่กับแวง ไนกี้ก็แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ในการแสดงที่ทำให้แวงหรือแม้แต่เราอยากค้นหา เรียกได้ว่าไม่ว่าจะในจอหรือนอกจอ ลุคของไนกี้ก็ดูมีเสน่ห์ชวนให้หลายๆ คนอยากติดตามผลงานต่อไปเรื่อยๆ จ้า และสำหรับใครที่อยากติดตามไลฟ์สไตล์ของ ไนกี้ นิธิดล ก็สามารถติดตามผ่าน instragram : nike_nitidon ได้เลย~ https://www.instagram.com/p/CbIDDWVpwMP/?igshid=YmMyMTA2M2Y= ปอนด์ พลวิชญ์ เกตุประภากร ปอนด์ พลวิชญ์ เกตุประภากร เกิดวันที่ 25 มีนาคม 2542 ปัจจุบันอายุ 23 ปี เป็นน้องชายของ ฟรัง นรีกุล นักแสดงชื่อดังจากทางนาดาว ซี่งเราเชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะพอคุ้นหน้าคุ้นตาปอนด์จากคลิปต่างๆ ทางช่อง Youtube ของ ฟรัง นรีกุลบ้าง โดยบุคลิกภายนอกปอนด์ดูเป็นคนขรึมๆ เงียบๆ แต่ความจริงแล้วเป็นเข้าถึงง่าย ชอบเล่นกีฬา และเลี้ยงเจ้าหมาน้อยพันธุ์ชิบะ อินุ ชื่อเจ้าเปโซ ซึ่งเราก็มักจะได้เห็นบ่อยๆ ผ่าน Instragram ของเจ้าตัว สำหรับด้านวงการบันเทิง ปอนด์ก็มีผลงานให้เราได้เห็นผ่านตาอยู่บ้างทั้งในงานถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา มิวสิควิดีโอ ละคร และซีรีส์ที่กำลังออนแอร์ในตอนนี้เรื่อง เส้นลองจิจูดที่ 180 องศา ลากผ่านเรา 180 Degree Longitud โดย ปอนด์ รับบทเป็น แวง ลูกชายของศศิวิมลที่รับบทโดยแหม่ม คัทลียา ซึ่งเรื่องนี้ปอนด์ก็ได้ปรับลุคจากหนุ่มน่ารักสู่บทหนุ่มติสท์ที่มีความฝันในการเดินทางท่องเที่ยวสู่โลกกว้าง แต่เขากลับไม่ได้ทำตามความฝันเพราะติดอยู่ที่ความหวังและความต้องการของแม่ https://www.instagram.com/p/Cfa4wHEr8N5/?igshid=YmMyMTA2M2Y= สำหรับใครที่ติดตาม Instragram : pondponlawit ก็จะได้เห็นถึงไลฟ์สไตล์ของหนุ่มปอนด์ที่คล้ายๆ กับตัวแวงนั่นก็คือชอบการเดินทาง ซึ่งเราก็จะได้เห็นผ่านรูปถ่ายในมุมต่างๆ หลากหลายสถานที่จนเราอยากจะไปเก็บภาพตามบ้างเลยจ้า และถึงแม้ว่าซีรีส์เรื่อง เส้นลองจิจูดที่ 180 องศา ลากผ่านเรา 180 Degree Longitud จะผ่านไปไม่กี่อีพี แต่เราก็คิดว่า อีกไม่นานเราน่าจะได้ดูผลงานของเขาอีกแน่ๆ เพราะการแสดงของปอนด์เล่นได้ธรรมชาติมาก แถมเคมีในการแสดงก็ยังดี รวมถึงจังหวะการแสดงไม่ว่าจะเป็นบทเฮฮา หรือซึมก็ทำได้ดีไม่แพ้นักแสดงรุ่นพี่ในเรื่องเลย~ ทั้งนี้ สำหรับใครที่อยากติดตามผลงานของทั้ง 3 นักแสดงนำ แหม่ม คัทลียา / ไนกี้ นิธิดล / ปอนด์ พลวิชญ์ ก็สามารถติดตามได้ผ่านทางซีรีส์เรื่อง เส้นลองจิจูดที่ 180 องศา ลากผ่านเรา 180 Degree Longitud ซึ่งออนแอร์ทุกวันอาทิตย์ เวลา 23.15 น. ทางช่อง one31 หรือดูย้อนหลังได้ที่ ทรูไอดี ตัวอย่าง เส้นลองจิจูดที่ 180 องศา ลากผ่านเรา 180 Degree Longitude https://youtu.be/2ybBVfiWihc ขอบคุณ ตัวอย่าง เส้นลองจิจูดที่ 180 องศา ลากผ่านเรา 180 Degree Longitude จากYoutube : Miti Art Media Official ขอบคุณภาพประกอบบทความ ดังนี้ ภาพหน้าปก Facebook Miti Art Media : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 Instagram mcintosh : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 instragram nike_nitidon : ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 Instragram pondponlawit : ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 อัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี
เล่าจากลัง • 26 ก.ค. 68
อ่าน
เตรียมความพร้อมก่อนบินลัดฟ้าไปเรียนต่อปริญญาตรี ที่ประเทศอังกฤษ (UK Bachelor Degree)
ทำไมต้องไปเรียนต่อปริญญาตรี ที่ประเทศอังกฤษ (UK Bachelor Degree) ด้วย?เคยสงสัยกันบ้างรึเปล่า ว่าทำไมใครต่อใคร ถึงพยายามจะส่งบุตรหลานไปเรียนต่อปริญญาตรีอังกฤษกัน จริงๆ แล้วเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องหน้าตาทางสังคมแต่เพียงอย่างเดียว แต่การที่มีโอกาสได้ไปเรียนต่อปริญญาตรีอังกฤษนั้น จะช่วยทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ทักษะต่างๆ ในการทำงานได้อย่างเจาะลึก จากผู้เชี่ยวชาญระดับสูงในสาขาวิชานั้นๆ อย่างแท้จริง ทั้งนี้ อาจารย์ที่สอนในระดับมหาวิทยาลัยในประเทศไทยเกินกว่าครึ่งหนึ่ง ก็ล้วนแล้วแต่ผ่านการเรียนปริญญาในรั้วมหาวิทยาลัยต่างประเทศด้วยกันทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้ การไปศึกษาหาความรู้จากต้นตำหรับด้วยตัวเอง ย่อมได้ความรู้มากกว่าการมานั่งเรียนกับลูกศิษย์ของปรมาจารย์อีกทอดหนึ่งอีกทีอยู่แล้วหลักสูตรปริญญาตรีอังกฤษหลักสูตรปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษนั้นค่อนข้างยืดหยุ่น ทำให้เด็กๆ สามารถเลือกรูปแบบในการเรียนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตได้หลากหลายหลักสูตร ไม่ว่าจะเป็น1. ปริญญาตรีอังกฤษ หลักสูตร 3 ปีเริ่มต้นจากหลักสูตรแรก สำหรับคนที่อยากจะไปเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษ ให้จบภายในระยะเวลา 3 ปีแล้วล่ะก็ ให้เลือกเรียนเป็นพวกหลักสูตรนานาชาติในกลุ่มสาขาวิชาที่ไม่ต้องเข้าห้องปฏิบัติการ หรือต้องลงมือปฏิบัติอะไรมากมายนัก อาจมีการทำเวิร์คช้อปบ้างเล็กๆ น้อยๆ เช่น การเรียนในสาขาเกี่ยวกับวรรณกรรมหรือวิชาทางด้านศิลปะศาสตร์ ที่สามารถเข้าฟังสัมมนา การอบรมต่างๆ จนครบหน่วยกิตที่กำหนด แล้วสอบจบด้วยวิชาเอกที่เลือกไว้ แบบนี้ก็เรียนจบแล้ว อารมณ์คล้ายๆ การประมวลผลความรู้ก่อนสอบจบในประเทศไทยนี่แหละ2. ปริญญาตรีอังกฤษ หลักสูตร 4 ปีอย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการจะไปเรียนต่อปริญญาตรีอังกฤษ ในหลักสูตรที่ต้องลงมือปฏิบัติเสียงส่วนใหญ่ อย่างสาขาวิชาด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ต่างๆ ในกรณีนี้ ระยะเวลาที่จำเป็นต้องใช้ในการเรียนก็จะเพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อย โดยจะเป็นปริญญาตรีอังกฤษ หลักสูตร 4 ปีแทน ซึ่งไม่ถือว่าเป็นการลงทุนทางด้านเวลามากจนเกินไป เนื่องจากหลักสูตรเหล่านี้ในประเทศไทยนั้น ก็ใช้ระยะเวลาในการเรียนประมาณ 4 ปีเท่ากันนั่นเอง3. หลักสูตร Fast Trackสำหรับใครที่ใจร้อน อยากเรียนจบไวๆ บอกเลยว่าคุณเองต้องเลือกเรียนปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษในหลักสูตร Fast Track ล่ะ เพราะหลักสูตรนี้นั้นเรียนจบเร็วอย่างเหลือเชื่อ ใช้เวลาเพียง 2 ปีก็ได้ปริญญาตรีกลับบ้านแล้ว พอคุณสามารถเรียนจบได้เร็วมากขึ้น ก็มีโอกาสในการทำงานจริงๆ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้มากกว่าคนในรุ่นเดียวกัน เหมาะกับคนอยากรีบเรียนให้จบ ไม่ได้อยากไปท่องเที่ยว หรือหากิจกรรมอื่นๆ ทำในประเทศอังกฤษในระหว่างเรียนมากนัก4. สูตรการฝึกงานระหว่างเรียนหรือ sandwich courseสำหรับคนที่อยากฝึกงานระหว่างเรียนต่อปริญญาตรีอังกฤษนั้น เราขอแนะนำให้ลงทะเบียนเรียนแบบ sandwich course ซึ่งใช้เวลาเรียนแบบเดียวกันกับในประเทศไทยเลย เพราะว่าก่อนจบต้องมีการฝึกงานในสนามจริงก่อนจบ แต่ที่ประเทศอังกฤษเขาไม่ได้ฝึกงานกันไม่กี่เดือนแบบที่ไทยนะ ที่นี่เขาฝึกงานกันยาว 1 ปีเต็มก่อนจบ ซึ่งมันดีมากๆ ต่อการหางานในอนาคต เพราะเราจะมีประวัติการทำงานติดตัวไปด้วย ที่ไหนบอกว่ารับคนมีประสบการณ์การทำงานเท่านั้น เราก็สามารถสมัครได้5. สูตรปริญญาตรีระยะสั้น Certificate of Higher Education (CertHE)สำหรับใครที่อยากเรียนปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษ แต่ภาระเยอะ หรือทุนทรัพย์น้อย ต้องทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยแล้วล่ะก็ บอกเลยว่าสูตรปริญญาตรีระยะสั้น Certificate of Higher Education (CertHE) นั้นเหมาะกับคุณมากๆ เพราะว่าใช้เวลาเรียนแบบจริงจังแค่ 1 ปี เท่านั้น ส่วนอีก 2 ปีที่เหล่าจะเป็นการเรียนแบบ Part time ทำให้มีเวลาไปรับจ๊อบหาเงินมาโปะค่าเทอมได้จนเรียนจบหลักสูตรนั่นเอง6. สูตรปริญญาตรีระยะสั้น Diploma of Higher Education (DipHE)สูตรปริญญาตรีระยะสั้น Diploma of Higher Education (DipHE) เป็นอีกหนึ่งหลักสูตรของคนต้องรีบใช้ปริญญาแบบด่วนๆ เพราะแค่เรียนเต็มเวลาเพียง 2 ปี ก็ได้ใบปริญญาไปนอนกอดแล้ว เพียงแต่ว่าจะไม่สามารถใช้ปริญญาใบนี้ไปเรียนต่อระดับปริญญาโทได้ หากต้องการคว้าปริญญาในระดับที่สูงขึ้น คุณต้องไปลงทะเบียนเรียนเพิ่มอีก 1 ปี ถึงจะใช้ปริญญาใบนี้ไปเรียนปริญญาโทต่อได้นะ เอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในการสมัครเรียนปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษเรียนต่อปริญญาตรีอังกฤษ สิ่งแรกที่ควรเตรียมให้พร้อมเลย ก็คือ คะแนน IELTS ในระดับ 6.5 หรือสูงกว่านี้ ซึ่งจริงๆ แล้วจะใช้ TOEFL iBT มายื่นก็ได้ แต่ต้องขอแนะนำเอาไว้ตรงนี้เลยว่า ไม่ควร ยกเว้นหมดทางเลือกแล้วจริงๆ เพราะ IELTS นั้นเป็นแบบทดสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในเครือจักรภพอังกฤษ ถ้านำคะแนน TOEFL iBT มาใช้ ก็จะให้อารมณ์ประมาณว่า ไปเที่ยวประเทศอังกฤษ แต่พวกเงินดอลลาร์ไปช้อปปิ้ง ซึ่งจริงๆ มันก็ทำได้ แต่ก็ไม่ควรทำ เหมือนเวลาเราเข้าเมืองตาหลิ่ว เราก็ควรจะหลิ่วตาตาม อ้อ ถ้าจะใช้ TOEFL iBT จริงๆ คะแนนต้องมากกว่า 80 คะแนนนะผลการเรียนก็จำเป็น พยายามอย่าให้เกรดต่ำกว่า C แต่ถ้าจะให้ดีแบบพอมีโอกาสได้เรียนต่อ คงต้องได้อย่างน้อย 2.75 หรือ C+ ขึ้นไป ถึงจะเข้าเรียนปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยระดับกลางๆ ได้ แต่ถ้าใครให้ 3.00 หรือ B ขึ้นไปแล้วล่ะก็ จะมีโอกาสติดทุกมหาวิทยาลัยที่เลือกเกือบทุกที่เลยส่วน Statement of Purpose - SOP อันนี้สำคัญมากๆ ต้องบอกให้เขารู้ชัดเจนเลยว่าทำไมถึงอยากเรียนที่นี่ และอยากจะแนะนำว่า ถ้าเขียนบอกว่าเตรียมหัวข้อวิจัยจบไว้แล้วเนี่ย โอกาสได้รับคัดเลือกเข้าศึกษาต่อจะมีสูงมากๆ เลยRecommendation Letter หรือจดหมายแนะนำตัวก็สำคัญนะ ให้อาจารย์ที่สนิทกันเขียนให้ก็จะดี เพราะเขาจะประเมินพฤติกรรมเราว่าจะเรียนได้จนจบไหมจากเอกสารตัวนี้แหละอย่าลืมเตรียมเอกสาร Requirements ที่มหาวิทยาลัยแจ้งด้วยล่ะ เพราะแต่ละที่ขอเอกสารไม่เหมือนกันจะไปเรียนต่อปริญญาตรีมหาวิทยาลัยไหนในอังกฤษดี?อยากจะบอกเลยจริงๆ เรียนต่อปริญญาตรีอังกฤษ นั้นอัดแน่นไปด้วยมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกเต็มไปหมด อย่างที่ดังมากๆ และเป็นที่รู้จักกันดี คือ มหาวิทยาลัย Oxford อันเลี่ยงชื่อทางด้านวิชาการและอาคารเรียนที่สวยงามราวกับมีมนต์ขลัง ขนาดภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter ยังต้องมาถ่ายทำกันที่นี่เลย แต่ก็จะเตือนเอาไว้หน่อย ว่าที่นี่เรียนกันหนักหน่วงและดุเดือดมากๆ และที่สำคัญกว่านั้นเนี่ย ค่าเทอมแพงและแรงมากๆ แต่คนที่จบมาได้ก็เป็นหัวกะทิระดับแนวหน้าเลยจริงๆ นะ อย่างคุณท็อป จิรายุส เจ้าของ BitKub บริษัท startup ระดับ Unicorn ตัวที่ 2 ของประเทศไทยก็จบมาจากที่นี่ นอกจากนี้ก็มีที่อื่นที่ดังๆ รองลงมาอย่างเช่น Cambridge และ Imperial Collegeขมวดประเด็นการเรียนต่อปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษบอกได้เลยว่าถ้าใครได้มีโอกาสไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษเนี่ย ถือได้ว่าได้ค่าประสบการณ์ชีวิตที่สูงมากจริงๆ เพราะนอกจากจะได้ไปแสวงหาความรู้จากต้นสายปลายทางแล้ว ยังได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ ทำให้มีคอนเน็คชั่นกับผู้คนทั่วโลก ต่อไปจะทำงานอะไรก็สะดวก เพราะสามารถปรึกษากับคนที่มีความสามารถระดับแนวหน้าของโลกได้ แต่ก็อย่าลืมว่าการไป เรียนต่อปริญญาตรีอังกฤษ นั้นต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ใน 1 ปีนี่อาจจะต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทเลยทีเดียว เพราะแบบนี้จึงไม่ควรคิดที่จะไปเล่นๆ ถ้าจะไปก็ต้องตั้งใจจริงๆ ให้คุ้มกับเงินที่เสียไป และคะแนน IELTS กับ SOP ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะนี่คือใบเบิกทาง ที่จะทำให้น้องๆ สามารถไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษได้นั่นเอง ขอบคุณภาพปก โดย freepikขอบคุณภาพประกอบบทความ 1 โดย freepikขอบคุณภาพประกอบบทความ 2 โดย eva058929 จาก freepikขอบคุณภาพประกอบบทความ 3 โดย freepic.diller จาก freepikขอบคุณภาพประกอบบทความ 4 โดย nirat.pix จาก freepik เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
AllYouShouldKnow • 15 มี.ค. 65
อ่าน
ชวนดู! ชะตารักประกาศิตมังกร Dragon King's Decree (2025)
เตรียมตัวเข้าสู่โลกแฟนตาซีสุดอลังการที่เต็มไปด้วยเผ่ามังกร ราชสำนักลึกลับ และโชคชะตาที่ท้าทายทุกข้อจำกัดของหัวใจ ซีรีส์เรื่อง “ชะตารักประกาศิตมังกร Dragon King's Decree” ผสมผสานทั้งความรัก โรแมนติก ดราม่า และการต่อสู้เพื่ออำนาจได้อย่างลงตัว พระเอกองค์รัชทายาทมังกรผู้เข้มแข็งและนางเอกผู้ถูกดูถูกจากโชคชะตาจะมาสร้างเคมีที่น่าติดตาม ทุกฉากเต็มไปด้วยความเข้มข้น ทั้งเรื่องราวการเมืองความลับ และพลังเวทสุดตระการตา เต็มอิ่มทั้งสายตาและอารมณ์ รับรองว่าแฟนซีรีส์แฟนตาซี-โรแมนติกไม่ควรพลาด! รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! 1.) โลกแฟนตาซี “เผ่ามังกร” ที่สร้างมาอย่างมีชั้นเชิงและสมบูรณ์แบบ ซีรีส์เรื่อง “ชะตารักประกาศิตมังกร Dragon King's Decree” ไม่ใช่เพียงการเล่าเรื่องรักเท่านั้น แต่ยังพาผู้ชมเข้าไปในโครงสร้างโลกที่ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน ทั้งระบบพลังของเผ่ามังกร ราชสำนักที่ซับซ้อน ความขัดแย้งระหว่างเผ่ามนุษย์ มังกร และปีศาจ รวมถึงประเพณีที่ผูกมัดอนาคตของตัวละครแต่ละคน ทุกองค์ประกอบช่วยเติมเต็มให้ฉากเอฟเฟกต์ พลังเวท และฉากต่อสู้มีความหมายมากกว่าความสวยงาม เพราะแต่ละเบื้องหลังล้วนเกี่ยวพันกับโชคชะตาและเส้นทางของตัวละคร ทำให้คนดูรู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในโลกนั้นจริง ๆ ไม่ใช่โลกแฟนตาซีที่สร้างขึ้นลอย ๆ 2.) พระนางมีเคมีแรง ถ่ายทอดบทบาทได้มีมิติและน่าติดตาม “เย่เซิ่งเจีย” และ “หลี่มู่เฉิง” รับส่งอารมณ์ได้ดีเกินคาด โดยเฉพาะการพัฒนา ช่องว่างสถานะทางสังคม ระหว่างองค์รัชทายาทผู้สูงส่งกับหญิงสาวที่ถูกดูหมิ่น ความแตกต่างนี้ทำให้ทุกฉากที่ทั้งคู่ค่อย ๆ เชื่อมโยงกันมีน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็นแววตา การปกป้อง การท้าทายกันไปมา ไปจนถึงการผลักดันให้ทั้งสองแข็งแกร่งขึ้น เป็นคู่ที่ค่อย ๆ สร้างความเข้มข้นจากความไม่เข้าใจไปสู่ความผูกพันอย่างลึกซึ้ง เคมีของทั้งคู่ทำให้ฉากโรแมนติกมีแรงดึงดูดและทำให้ผู้ชมอินกับความสัมพันธ์ตั้งแต่ต้นจนจบ 3.) ตัวละครหญิงที่ “โตจริง เจ็บจริง และแข็งแกร่งขึ้นจริง” คาแรคเตอร์ของ “เฟิ่งจื้อโหลว” ไม่ใช่นางเอกสายสวยใสหรือรอให้ใครช่วย แต่เป็นตัวละครที่ผ่านความเจ็บปวดจากสังคมและครอบครัวมาตลอด เธอเติบโตมาท่ามกลางการเหยียดหยามเพราะลักษณะ “เก้าหยิน” ทำให้เธอมีชั้นเชิงทางอารมณ์มากกว่าที่เห็น เธอมีความหวังบางอย่างซ่อนอยู่ มีความเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเอง แม้จะถูกกดทับหลายทาง การเห็นเธอค่อย ๆ โตขึ้น กล้าพอที่จะลุกกลับมาต่อสู้เพื่อตัวเอง ทำให้เธอเป็นหนึ่งในนางเอกที่น่าจับตาที่สุดในซีรีส์จีนปีนี้ และทำให้เรื่องมีความเข้มเชิงดราม่าโดยไม่พึ่งแต่ฉากหวาน 4.) ความขัดแย้งทางการเมืองและความลับของราชสำนักที่เดินเรื่องอย่างเข้มข้น เบื้องหลังความรักคือเกมการเมืองที่ซับซ้อน ทั้งการต่อสู้เพื่ออำนาจในราชสำนักมังกร แผนการของผู้ที่อยากใช้ประเพณีและ “หญิงศักดิ์สิทธิ์” เป็นเครื่องมือ และความขัดแย้งระหว่างตระกูลที่มีประวัติยาวนาน ทำให้ทุกตอนมีแรงกดดันบางอย่างที่ซ่อนอยู่ บางครั้งฉากสงบ ๆ ก็อาจแฝงความลับหรือการหักหลังแบบไม่ทันตั้งตัว ซีรีส์จึงไม่ใช่แค่โรแมนติกแฟนตาซี แต่ยังผสมความลึกลับ การเมือง และความทะเยอทะยานของผู้คนได้ดี ชนิดที่ทำให้คนดูต้องลุ้นว่าตอนต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น 5.) งานภาพ เอฟเฟกต์ และการออกแบบฉากที่วิจิตรตระการตา แม้จะเป็นซีรีส์แนวพีเรียด-แฟนตาซี แต่ทุกองค์ประกอบด้านภาพถูกทำออกมาอย่างจริงจัง ทั้งฉากเมืองมังกรที่มีเอกลักษณ์ เครื่องแต่งกายที่งดงาม รายละเอียดของชุดนักรบ พลังเวทที่แสดงออกผ่านสี แสง และรูปแบบการเคลื่อนไหวที่มีเอกลักษณ์ เอฟเฟกต์ของเผ่ามังกรทำให้ผู้ชมรู้สึกว่า “นี่คือเผ่ามังกรจริง ๆ” ไม่ใช่เพียงการใส่ CGI แบบลอย ๆ ความตั้งใจทั้งหมดนี้ทำให้ซีรีส์มีภาพลักษณ์ระดับภาพยนตร์ บวกกับดนตรีประกอบที่ช่วยขับอารมณ์ ทำให้หลายฉากทั้งยิ่งใหญ่และตราตรึงในเวลาเดียวกัน จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ ชวนดู! ชะตารักประกาศิตมังกร Dragon King's Decree (2025) โดยเพื่อน ๆ สามารถรับชมซีรีส์เรื่อง “ชะตารักประกาศิตมังกร Dragon King's Decree” ได้ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2025 มีทั้งหมด 30 ตอน ออกอากาศทาง WeTV เครดิตภาพหน้าปกโดย @龙王令官微 ภาพหน้าปก เครดิตภาพประกอบบทความโดย @龙王令官微 ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
nowadaysgirl • 25 พ.ย. 68
อ่าน
ลงทะเบียน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เปิดจองพรุ่งนี้!
วันนี้ (14 ก.ค.63) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยืนยันว่า รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมสำหรับการลงทะเบียน "เราเที่ยวด้วยกัน" ไว้พร้อมแล้ว และเชื่อว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวน่าจะใช้เงินเพียงแค่ 50% ของกรอบวงเงินที่ขออนุมัติจาก ครม.ไว้ โดยเฉพาะกรอบวงเงินที่ใช้การสนับสนุนค่าโรงแรมที่พัก รวมทั้งค่าสนับสนุนร้านอาหาร และค่าเข้าแหล่งท่องเที่ยว ที่ตั้งกรอบวงเงินไว้ 1.8 หมื่นล้านบาทแต่อย่างไรก็ตามคงต้องประเมินผลการเข้ามาใช้สิทธิ์จองที่พักของผู้ที่เข้ามาลงทะเบียนร่วมโครงการก่อนว่าจะเต็มทั้งหมด 5 ล้านคืน และมีเงินเหลืออยู่เท่าใด เพราะประเมินว่า คนส่วนใหญ่คงจองห้องพักราคาเฉลี่ยแค่คืนละ 1,000 – 3,500 บาทเท่านั้นดังนั้น หากมีเงินเหลืออยู่เป็นไปตามที่คาดไว้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะคุยกับกระทรวงการคลัง เพื่อเสนอ ครม.ขอขยายจำนวนห้องพักเพิ่มเติมให้กับผู้ที่เข้ามาจองห้องพักไม่ทันในรอบแรกด้วยนายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า การทำโครงการครั้งนี้จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางและใช้จ่ายภายในประเทศ เพราะสานการณ์ท่องเที่ยวตอนนี้ต้องฝากความหวังไว้ที่การเดินทางของคนไทยเที่ยวไทยเป็นหลัก พร้อมตั้งเป้าหมายทั้งปีว่า จะต้องมีรายได้จากการท่องเที่ยว 1.23 ล้านล้านบาททั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรุ่งนี้ (15 ก.ค.) จะเป็นวันแรกของการเปิดลงทะเบียนรับสิทธิ์ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.comโดยจะเริ่มเปิดจองตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. ทุกวันเพื่อรับสิทธิ์ส่วนลดค่าที่พัก ค่าอาหารและค่าตั๋วเครื่องบินจากรัฐบาล 40% โดยคาดว่าประชาชนจะแห่จองรับสิทธิ์เต็มตั้งแต่วันแรกสำหรับคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ มีดังนี้- เป็นบุคคลสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชน- มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียนต้องเลือกท่องเที่ยว กิน และพักในจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่จังหวัดตามทะเบียนบ้านของตนเอง- ต้องมีสมาร์ทโฟนที่สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ ท่องเที่ยว ที่พัก และสิทธิประโยชน์อื่นๆ- ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “เป๋าตังค์” และยืนยันตัวตนในแอปฯ รอไว้ข่าวที่เกี่ยวข้อง8 คำถามยอดฮิต! ลงทะเบียน www.เราเที่ยวด้วยกัน.comเช็กกันหรือยัง! ระบบเปิดค้นหาโรงแรม ร้านอาหาร เข้าร่วม "เราเที่ยวด้วยกัน"ที่เดียวครบ! วิธีลงทะเบียน จองโรงแรม รับเงินคืน ใช้คูปอง www.เราเที่ยวด้วยกัน.comเกาะติดข่าวที่นี่website: www.TNNThailand.comfacebook : TNNThailandfacebook live : TNN Livetwitter : @TNNThailandLine : @TNNONLINEYoutube Official : TNNThailandInstagram : @tnn_onlineTIKTOK : @tnnonline
TNN ช่อง16 • 14 ก.ค. 63
อ่าน
10จังหวัดติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด กทม.วันนี้พบป่วย 1,211 ราย
วันนี้ (3ต.ค.64) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10,828 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 10,814 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 770 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 104 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 14 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่าย ATK 2,839 ราย เสียชีวิต 77 รายสำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 1,637,432 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 11,894 ราย กำลังรักษา 112,251 ราย อาการหนัก 3,074 ราย ในจำนวนนี้ใช้เครื่องช่วยหายใจ 712 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 17,014 ราย10 อันดับจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรายใหม่สูงสุด1.กรุงเทพมหานคร 1,211 ราย2.ยะลา 783 ราย3.สมุทรปราการ 760 ราย4.ชลบุรี 643 ราย5.ระยอง 533 ราย6.นราธิวาส 442 ราย7.ปัตตานี 412 ราย8.นครศรีธรรมราช 378 ราย9.ปราจีนบุรี 362 ราย10.สงขลา 353 รายข้อมูลจาก ศบค.ภาพจาก TNN ONLINE
TNN ช่อง16 • 3 ต.ค. 64
อ่าน
Cafe De Tree ร้านกาแฟดี ที่น่าลอง
จังหวัดศรีสะเกษมีร้านกาแฟมากมาย ให้ได้เลือกรับประทานตามความชอบ วันนี้ผมจะมารีวิวร้านกาแฟร้านหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ ที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ เป็นร้านกาแฟที่สวยงามและมีความอร่อยเป็นพิเศษ กาแฟคั่วจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้าแท้ กาแฟทุกแก้วจึงมีความเข้มข้นสูง คอกาแฟไม่ควรพลาดครับ สำหรับวันนี้ผมจะพาทุกท่าน สายชิม สายแชะ ไปรู้จักร้านกาแฟแห่งนี้ ที่อยู่ในจังหวัดศรีสะเกษ ว่ามีเหตุผลใดที่ต้องไปลองสักครั้ง ตามไปดูกันเลยครับ 1. บรรยากาศ ทางด้านบรรยากาศมีความแปลก ให้ความรู้สึกเหมือนร้านกาแฟสไตล์อิตตาลี ที่ผสมผสานความป็ธรรมชาติ โดยการตกแต่งด้วยต้นไม้ และใช้แสงไฟสีเหลือง ที่มีรูปทรงต่างกันประดับอยู่เต็มร้าน ด้านหน้าของร้านกาแฟมีโต๊ะจัดไว้สำหรับคนที่ไม่ชอบนั่งอยู่ด้านในหรือไม่ชอบแอร์ ก็สามารถนั่งหน้าร้านและชมวิวตามทางได้ ก็สวยงามไม่แพ้กัน ถึงแม้ร้านจะใช้โทนสีทึบในการตกแต่งและไม่ได้เปิดไฟมากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีผลต่อการถ่ายภาพเพราะแสงหลักมาจากแสงธรมมชาติ ด้านหน้าร้านไม่มีการก่อนกำแพง แต่ใช้เป็นกระจกใสในการทำผนังแทนอิฐ แสงที่ผ่านเข้ามาจึงเป็นแสงอ่อน ใครที่ได้มาถ่ายรูปที่ร้านนี้รับรองไม่ผิดหวัง ส่วนโซนในร้านจะมีอยู่ 3 ส่วน คือ ด้านหน้าร้าน ในร้าน และโซนดนตรี ที่จะมีการแสดงดนตรีในตอนกลางคือ สำหรับที่นั่งรับประทาน มีมากมายเพียงพอต่อการรับรองผู้มาใช้บริการแน่นอน มีทั้งโซฟา โต๊ะยาว ให้เลือกนั่งได้ตามความชอบ 2. อาหารและเครื่องดื่ม ภายในร้านมีเมนูอาหารแบบต่างๆมากมาย เครื่องดื่มในร้านไม่ว่าจะเป็นเมนูใดก็มีความเข้มข้นและอร่อยแต่ที่พิเศษคือเมนูกาแฟ เพราะคั่วจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้าแท้ ทำให้รสชาติเข้มข้นไม่เหมือนใครแน่นอน ในส่วนของอาหารจะมีเมนูต่างๆ มากมายให้เลือก ตั้งแต่เมนูขนมปัง พิซซ่า ไปจนถึงผัดต่างๆ หรือส้มตำก็มีให้เลือกรับประทานมากมาย ราคาถือว่าค่อนข้างปกติและคุ้มค่า เมื่อเทียบกับการบริการ และความอร่อย 3. การบริการ พนักงานในร้านนี้ถือว่าค่อนข้างเอาใจใส่ลูกค้ามากตั้งแต่เดินเข้ามาในร้าน เราจะพบกับพนักงานรอต้อนรับอยู่ เมื่อได้ที่นั่งแล้วพนักงานจะรีบนำเมนูมาให้เราทันที ระหว่างเราเลือกเมนู พนักงานจะยืนรอจดเมนูที่เราสั่ง โดยที่เราไม่ต้องเรียกเลย ในการรออาหารมาเสริฟใช้เวลารอไม่นานจะได้กินอาหารอร่อยๆ จากร้านนี้แน่นอน 4. มุมถ่ายภาพ ถือว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยครับ ด้วยความที่ร้านค่อนข้างกว้างจึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องมุมถ่ายภาพ เพราะพื้นที่กว้างสะดวกต่อการโพสท่าต่างๆ และไม่รบกวนลูกค้าท่านอื่นแน่นอน ในร้านมีมุมต่างๆ ให้เลือกมากมายหลากหลายไม่เว้นแม้แต่ในห้องน้ำ ท่านสามารถเลือกถ่ายได้ตามสบายเลยครับ รับรองสวยทุกรูป ส่งท้าย อยากให้ทุกคนได้ลองแวะมาดูนะครับผมรับรองว่าหลายคนต้องชอบมากแน่นอน กาแฟเข้มข้น ขนมอร่อย หรือจะเป็นอาหารก็สุดยอดเช่นกัน ใครที่อยู่ศรีสะเกษห้ามพลาดเป็นอันขาดนะครับ มุมถ่ายรูปสวยๆ เพียบ ข้อมูลร้าน 1291/5-6 เทศบาลเมืองศรีสะเกษ โทร 081 280 8388 เวลาเปิดปิด เปิดบริการทุกวัน เวลา 07.00 - 22.00
MAXPHOTOGRAPH • 13 ต.ค. 62
อ่าน
รีวิว ชะตารักประกาศิตมังกร Dragon King's Decree (2025)
เมื่อโลกของมนุษย์ และเผ่ามังกรปะทะกันด้วยชะตากรรมและอำนาจเก่าแก่ “Dragon King’s Decree” เลือกเล่าเรื่องผ่านสายตาของหญิงสาวจากฐานะต่ำต้อย และรัชทายาทผู้ทรงอำนาจ นำเสนอทั้งดราม่า แฟนตาซี และโรแมนซ์ในจังหวะที่พอดี ในภายใต้ฉากหลังที่มีทั้งความงดงามของวังมังกร และความโหดร้ายของการเมืองโบราณ ซีรีส์เรื่องนี้พาเราไปสัมผัสเส้นทางของตัวละครที่ต่อสู้กับโชคชะตา สังคม และความคาดหวัง เพื่อสร้างหนทางของตนเอง วันนี้เราจะชวนเพื่อน ๆ มาดูซีรีส์เรื่องนี้กันใน ‘รีวิว ชะตารักประกาศิตมังกร Dragon King's Decree (2025)’ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ซีรีส์ ชะตารักประกาศิตมังกร Dragon King's Decree ซีรีส์เรื่อง “ชะตารักประกาศิตมังกร Dragon King’s Decree” บอกเล่าเรื่องราวในโลกที่พลังวิญญาณและเหล่ามังกรยังคงดำรงอยู่ หลิงชี หญิงสาวผู้มีชะตาถูกสาปให้ต้องพบกับความตายก่อนอายุครบยี่สิบปี ได้รับโองการสวรรค์ให้กลายเป็น “เจ้าสาวแห่งราชามังกร” โดยไม่คาดคิด การแต่งงานครั้งนี้คือทางรอดเดียวจากชะตากรรมอัปมงคลที่ติดตัวเธอมาแต่กำเนิด ด้าน หลงอ๋องอวิ๋นจื่อ ราชามังกรผู้ยิ่งใหญ่และทรงพลังที่สุดแห่งสี่ทิศ กลับไม่เคยต้องการมีพันธะกับมนุษย์ แต่ด้วย “ประกาศิตมังกร” ที่ไม่อาจต่อต้านได้ เขาจำต้องรับนางเป็นชายา แม้จะไม่เชื่อว่ามนุษย์อ่อนแอคนหนึ่งจะมีผลต่อชะตาของตน เมื่อหลิงชีเข้าสู่วังมังกร ความลับของสายเลือดที่ถูกปิดบังมานานเริ่มเผยตัว ทั้งยังเกิดพลังลึกลับเชื่อมโยงเธอกับราชามังกร ทำให้ทั้งสองต้องจับมือกันรับมือศัตรูโบราณ พลังมืดที่ฟื้นคืน และปริศนาชะตารักที่อาจเปลี่ยนสมดุลสามภพ จากพันธะที่ทั้งคู่ไม่ต้องการ ค่อย ๆ กลายเป็นความผูกพันที่ยากจะปฏิเสธแต่เมื่อความจริงของคำทำนายเปิดเผย ทั้งสองต้องเลือกระหว่าง หน้าที่ต่อสามภพ หรือ หัวใจที่เลือกกันเอง นักแสดง ชะตารักประกาศิตมังกร Dragon King's Decree เย่เซิ่งเจีย รับบทเป็น “จูโมซาง” ราชามังกรสูงสุดแห่งสี่ทิศ บุคลิกเย็นชา นิ่ง ขรึม มองมนุษย์เป็นสิ่งอ่อนแอ พลังธาตุน้ำและมังกรที่แข็งแกร่งที่สุด ต้องจำยอมรับ “ประกาศิตมังกร” ให้แต่งงานกับมนุษย์ ภายในลึก ๆ มีบาดแผลจากอดีตและกลัวการสูญเสีย เมื่อได้ใกล้ชิดนางเอก เขาเริ่มเปิดใจและยอมเปลี่ยนชะตาที่ตนเองต่อต้านมาตลอด หลี่มู่เฉิง รับบทเป็น “เฟิ่งจื้อโหลว” เธอเป็นมนุษย์สาวที่เกิดมาพร้อมคำสาปอายุสั้น ไม่เกินยี่สิบปี จิตใจอ่อนโยน มองโลกในแง่ดี แม้ชีวิตถูกโอบล้อมด้วยโชคร้าย ได้รับเลือกด้วย ประกาศิตสวรรค์มให้เป็นเจ้าสาวของราชามังกร เมื่ออยู่ในวังมังกร ความลับของสายเลือดและพลังที่หลับใหลค่อย ๆ ปรากฏ บุคลิกสดใส สร้างความเปลี่ยนแปลงให้พระเอกอย่างไม่รู้ตัว เคมีของพระ–นางใน ชะตารักประกาศิตมังกร เป็นแบบ เย็นชาปะทะอ่อนโยน อย่างลงตัวค่ะ เขา คือราชามังกรผู้แข็งกร้าว ไม่ศรัทธาโชคชะตาและไม่ยอมให้ใครเข้าถึงหัวใจ และ เธอ คือมนุษย์สาวสดใสที่มีชะตาอัปมงคล แต่กลับอบอุ่นจนละลายน้ำแข็งในใจเขาได้ เมื่ออยู่ด้วยกันจึงมีทั้งความขัดแย้งเล็ก ๆ น่ารัก การปะทะเชิงอารมณ์ และแรงดึงดูดที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น จนกลายเป็นความผูกพันเข้มข้นแบบ “คู่ชะตาที่เกิดมาเพื่อเติมเต็มกัน” พล็อตเรื่องก็เรียกว่าเข้มข้นมาก บอกเล่าราวที่เริ่มจาก ประกาศิตสวรรค์ ที่บังคับให้ หลิงชี มนุษย์สาวผู้มีชะตาถูกสาปต้องกลายเป็น คู่สมรสของราชามังกร อวิ๋นจื่อ เพื่อแก้ล้างโชคร้ายของตนเอง แต่การแต่งงานนี้ไม่ได้เกิดจากความสมัครใจของทั้งคู่ เขาไม่เชื่อในโชคชะตา ส่วนเธอก็ไม่อยากเป็นตัวประสานความขัดแย้งระหว่างสองโลก เมื่อหลิงชีเข้าสู่วังมังกร ความลับเรื่องสายเลือด พลังที่ถูกผนึกไว้ และคำทำนายที่เชื่อมทั้งสองเข้าไว้ด้วยกัน ค่อย ๆ เปิดเผยออกมา พร้อมกับศัตรูโบราณที่ต้องการทำลายสมดุลระหว่างสามภพ เรื่องราวจึงเป็นทั้ง โรแมนซ์ + แฟนตาซี + การต่อสู้แย่งชิงอำนาจ ที่ผูกกับชะตาของทั้งคู่ ธีมหลักของชะตารักประกาศิตมังกร Dragon King's Decree ชะตาผูกพัน VS การเลือกด้วยตัวเอง: แม้จะถูกบังคับโดยประกาศิตมังกร แต่ทั้งคู่ต้องหาคำตอบว่า ความรักนี้คือโชคชะตาหรือการเลือกจริง ๆ การเติบโตและการเยียวยา: พระเอกจากเย็นชา ไม่ไว้ใจใคร → เรียนรู้การปกป้องและเชื่อมโยงหัวใจ นางเอกจากผู้ถูกสาปไร้ค่า → ค้นพบพลังและคุณค่าของตนเอง ความสมดุลระหว่างสองโลก: มนุษย์กับเผ่ามังกรต่างไม่เข้าใจกัน ความรักของทั้งคู่จึงเป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมสองเผ่าพันธุ์ การเสียสละและหน้าที่: คำทำนายทำให้ทั้งคู่ต้องเลือกระหว่างรักส่วนตัวหรือหน้าที่ต่อสามภพ การดำเนินเรื่องของเรื่องนี้ถือว่าดีและสนุกค่ะ ในภาพรวมคือเดินเรื่องกระชับ มีจังหวะโรแมนซ์–แฟนตาซี–ดราม่าเข้าคู่กันแบบลื่นไหล เปิดเรื่องเร็ว เข้าสู่ประกาศิตมังกรทันที ไม่ยืดเยื้อ ความสัมพันธ์ค่อย ๆ พัฒนา จากเย็นชาสู่ผูกพันทำให้ลุ้นและฟีลดี มีปริศนาและพลังลับ คอยขับเคลื่อนให้เรื่องไม่ตัน มีดราม่า ต่อสู้ หวานผสมกัน ทำให้เนื้อเรื่องไม่จำเจ ใครชอบซีรีส์ที่โทนเรื่องดูง่าย ไหลเร็ว มีทั้งอบอุ่นและเข้มข้นพอดีๆ ไม่หนักเกินไปค่ะคือต้องดู! โปรดักชันของ ชะตารักประกาศิตมังกร เรียกว่าฟิตติ้งกับแนวโรแมนซ์–แฟนตาซีย้อนยุคมากค่ะ เป็นงานที่ดูรู้ว่าใส่ใจรายละเอียดระดับหนึ่ง ทั้งฉาก เสื้อผ้า และบรรยากาศวังมังกรที่พยายามสร้างโลกแฟนตาซีให้รู้สึกมีเสน่ห์กำลังดีเอฟเฟกต์อาจไม่ได้หวือหวา แต่ก็ทำหน้าที่เล่าเรื่องได้ลื่นไหล ภาพออกมานุ่ม สวย และโทนสีค่อนข้างละมุน เหมาะกับฟีลคู่พระนางที่ค่อย ๆ ผูกพันกัน โดยถ้าเพื่อน ๆ ชื่นชอบซีรีส์ที่มีทั้งพล็อตแฟนตาซี ดราม่า ความรักที่ค่อย ๆ ก่อตัว และการท้าทายชะตา ซีรีส์เรื่องชะตารักประกาศิตมังกร Dragon King’s Decree เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ควรให้โอกาส สำหรับในซีรีส์เรื่อง “ชะตารักประกาศิตมังกร Dragon King's Decree” ออกอากาศทาง WeTV เริ่มตอนแรกวันที่ 21 พฤศจิกายน 2025 นี้! เครดิตภาพหน้าปก @龙王令官微 ภาพหน้าปก เครดิตภาพประกอบบทความ @龙王令官微 ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 / ภาพที่6 / ภาพที่7 / ภาพที่8 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
080******* • 28 พ.ย. 68
อ่าน
รีวิว ชะตารักประกาศิตมังกร Dragon King's Decree 2025
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวมินิซีรีส์จีน เรื่อง ชะตารักประกาศิตมังกร Dragon King's Decree มาวันแรกวันที่ 21 พฤศจิกายน 2025 มีทั้งหมด 30 ตอน ออกอากาศทาง WeTV นำแสดงโดยนางเอกสาวหลี่มู่เฉิง ที่มารับบท เฟิ่งจื่อโหลว ประกบคู่กับพระเอกหนุ่มเย่เซิ่งเจีย ที่มารับบท ฉู่ม่อซาง บอกเล่าเรื่องราวความรักของพระนางที่คนหนึ่งเป็นเทพมังกรอีกคนเป็นมนุษย์ธรรมดา เรื่องราวจะสนุกแค่ไหนเชิญไปอ่านกันได้เลย รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เป็นเรื่องราวของเฟิ่งจื่อโหลวนางเอกของเรื่องที่เป็นบุตรนอกสมรสของสกุลเฟิ่ง เพราะไม่มีรากปัญญาจึงบำเพ็ญยุทธ์ไม่ได้กลายเป็นคนไร้ประโยชน์ของตระกูล โชคดีอาของเธอสอนวิชาแพทย์ให้เพื่อใช้เลี้ยงชีพ วันหนึ่งนางเอกได้เจอกับฉู่ม่อซางพระเอกของเรื่องที่เป็นทายาทเผ่ามังกรบาดเจ็บหนักและโดนพิษหยาง นางเอกจึงพาเขามารักษา แต่ใครจะรู้รอยตรามังกรแดนศักดิ์สิทธิ์บนนิ้วพระเอกดันย้ายไปอยู่ที่นิ้งนางเอก ทำให้พระเอกต้องอยู่กับนางเอกทั้งเพื่อรักษาตัวและเพื่อหาวิธีนำรอยตรามังกรกลับมา ความจริงแล้วนางเอกมีสัญญาหมั้นหมายกับสกุลเหลิ่งโหวต้องแต่งงานกับเหลิ่งโหวจง แต่เขากลับลอบร่วมประเวณีกับเฟิ่งอวิ๋นเสี่ยวบุตรีในสมรสตระกูลเฟิ่ง เฟิ่งอวิ๋นเสี่ยวต้องการให้นางเอกถอนหมั้นกับเหลิ่งโหวจงจึงวางยาให้คนมาจะทำมิดีมิร้ายนางเอก โชคดีได้พระเอกช่วยไว้ ในขณะเดียวกันสถานการณ์ด้านฝั่งพระเอกก็ไม่ดีนัก นอกจากจะโดนให้หมั้นหมายกับปราชญ์หญิงอู่จิงเพื่อรักษาเสถียรภาพของเขตอาคมแดนศักดิ์สิทธิ์ จึงโดนเนี่ยหรงจื่อน้องชายลอบทำร้ายจนโดนพิษหยางมาให้นางเอกรักษา เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปก็ต้องไปดูกัน เฟิ่งจื่อโหลวเป็นบุตรนอกสมรสของสกุลเฟิ่งที่ไร้รากปัญญา ไม่อาจฝึกวิทยายุทธ์ได้ จึงโดนคนมองว่าเป็นตัวกาลกิณี มีเพียงอาของเธอที่คอยช่วยเหลือดูแล สอนวิชาแพทย์ให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้ วันหนึ่งเธอก็ได้เจอกับพระเอกที่มานอนสลบอยู่ที่บ้านของเธอจึงช่วยไว้ เรื่องนี้หลี่มู่เฉิงเล่นออกมาได้ดูสดใส น่ารัก สู้คน ฉู่ม่อซางเป็นทายาทของจักรพรรดิมังกรในเผ่ามังกรแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ทำสงครามกับเผ่ามารมายาวนาน เขามีสัญญาหมั้นหมายต้องแต่งงานกับปราชญ์หญิงอู่จิงเพื่อรักษาเสถียรภาพของเขตอาคมแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่ความจริงเขาไม่อยากใช้วิธีนี้เพราะไม่อยากแต่งงานกับปราชญ์หญิง เรื่องนี้เย่เซิ่งเจียเล่นออกมาได้ดูเป็นคนนิ่งๆ เย็นชา เสื้อผ้าและคอสตูมทำออกมาได้ดูสวยงามเหมาะกับบริบทเนื้อเรื่อง ชุดพระเอกคือเป็นชุดเทพเซียนที่ดูดีมาก มีลูกเล่นดูไม่เรียบจนเกินไป ใส่ออกมาคือหล่อมาก ส่วนชุดนางเอกตอนแรกเป็นชุดชาวบ้านธรรมดา แต่ต่อไปชุดจะดูหรูหรามากขึ้น เครื่องหัวเครื่องประดับก็อลังการ ฉากก็ทำออกมาได้ดูอลังการสวยงาม เทียบกับเทพเซียนของซีรีส์ฟอร์มใหญ่ได้เลย ชอบการดำเนินเรื่องของซีรีส์เรื่องนี้มาก ด้วยความที่เป็นมินิซีรีส์ทำให้รู้สึกว่าเนื้อเรื่องเดินไวมาก ดูเพลิน แป๊บๆ จบตอน มีการทิ้งท้ายก่อนจบได้น่าติดตาม แถมนางเอกยังสวยสง่า น่ารักในคนเดียวกัน ถึงแม้จะโดนรังแกแต่ก็ไม่ยอมคน ส่วนพระเอกก็ตรงปกคือเย็นชา แต่ก็ดูอบอุ่น เคมีคือเข้ากันมาก ชอบเรื่องนี้เพราะเป็นแนวโรแมนติกแฟนตาซีย้อนยุคที่ดูสนุก พล็อตเรื่องคือนางเอกเป็นคนไร้ประโยชน์เพราะฝึกยุทธ์ไม่ได้จึงโดนคนในตระกูลเหยียดหยาม แต่ต่อมาได้ไปช่วยพระเอกที่เป็นคนเผ่ามังกรไว้ และได้รับรอยตรามังกรทำให้กลายเป็นคนมีรากปัญญา สุดท้ายเรื่องราวจะจบลงอย่างไร พระนางจะได้คู่กันไหมก็ต้องไปดูกัน บทความ "ซีรีส์จีน" ที่กำลังออนแอร์ช่วงนี้ แนะนำ รักเหนือบัลลังก์ Love and Crown 2025 #เหรินเจียหลุน แนะนำซีรีส์จีน ข้าจะเป็นเซียน Flying up without Disturb 2025 รีวิว อสิธาราชะตามังกร Whispers of Fate 2025 #หลัวอวิ๋นซี รีวิวซีรีส์จีน ตํานานนทีมืด Blood River 2025 #กงจวิ้น รีวิว เลือดบัลลังก์พิศวาส The Ascent of Ling Yun 2025 อ้างอิง ภาพปก1, ภาพปก2 ตกแต่งโดย canva ภาพที่1-4 ขอบคุณภาพจาก Weibo: 龙王令官微 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
Faifun • 22 พ.ย. 68
อ่าน
รู้จักนักแสดง ชะตารักประกาศิตมังกร Dragon King's Decree 2025
ซีรีส์แฟนตาซีโรแมนซ์ที่กำลังเป็นกระแสอย่าง “ชะตารักประกาศิตมังกร Dragon King's Decree” ที่จะพาผู้ชมเข้าสู่โลกแห่งอำนาจ เผ่ามังกร และโชคชะตาที่พันผูกกันอย่างลึกซึ้ง แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้โดดเด่นยิ่งขึ้น คือเสน่ห์ของคู่พระนางและเหล่านักแสดงที่สวมบทบาทได้อย่างลงตัว ตั้งแต่ท่าทางทรงอำนาจขององค์รัชทายาทมังกร ไปจนถึงประกายความเข้มแข็งของหญิงสาวผู้ถูกกดทับโดยโชคชะตา นักแสดงแต่ละคนถ่ายทอดตัวละครออกมาอย่างมีพลังทำให้ผู้ชมอินตั้งแต่ฉากแรก วันนี้เราจะพาไปรู้จักพวกเขาให้มากขึ้น ทั้งตัวตน ผลงาน และเสน่ห์ที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ถูกพูดถึงไม่หยุดในปี 2025 รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! 1.) เย่เซิ่งเจีย (Ye Shengjia) “เย่เซิ่งเจีย (Ye Shengjia)” เกิดวันที่ 1 ตุลาคม 1994 ที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหนิงปอ สาขาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เขาเคยเป็นนายแบบประมาณ 2 ปี ก่อนเข้าสู่วงการแสดง และมีผลงานการแสดงเด่น ๆ เช่น A Love So Romantic, The Longest Promise, Mirror: A Tale of Twin Cities ฯลฯ เย่เซิ่งเจีย รับบทเป็น “จูโมซาง (Chu Moshang)” เขาคือองค์รัชทายาทแห่งเผ่ามังกร ผู้มีพลังสูงศักดิ์และตำแหน่งอันยิ่งใหญ่ แต่ต้องแบกรับภาระตามประเพณีที่บังคับให้เขาแต่งงานเพื่อรวมอำนาจของเผ่ามังกรกับตระกูลอื่น เขาเป็นคนสุขุม เฉียบคม และมีเสน่ห์ของผู้นำที่แข็งแกร่ง แต่ในขณะเดียวกันก็ดื้อดึงและไม่ยอมให้โชคชะตาหรือกฎเกณฑ์ใดมาบังคับหัวใจของตน จู โมซางจึงเป็นตัวละครที่น่าสนใจมาก เพราะแม้อยู่สูงสุดบนหอคอยแห่งอำนาจ เขากลับมีอิสรภาพทางหัวใจ และพร้อมท้าทายทุกสิ่งเพื่อคนที่เขาเลือกด้วยตัวเอง ช่องทางการติดตาม Weibo : @叶盛佳Loi 2.) หลี่มู่เฉิง (Li Muchen / Daisy Li) “หลี่มู่เฉิง (Li Muchen / Daisy Li)” เกิดวันที่ 17 สิงหาคม 1993 เธอเป็นนักแสดงหญิงชาวจีน ที่เริ่มเข้าสู่วงการแสดงตั้งแต่ปี 2016 มีผลงานซีรีส์หลายเรื่อง เช่นที่โดดเด่นเลยคือ The King’s Avatar และ Rattan หลี่มู่เฉิง รับบทเป็น “เฟิ่งจื้อโหลว (Feng Zhilou)” หญิงสาวจากตระกูลเฟิ่ง ผู้กำเนิดมาพร้อมลักษณะ “เก้าหยิน” ซึ่งทำให้เธอถูกมองว่าต่ำต้อย ไร้ค่า และถูกครอบครัวกดขี่มาตลอด แม้ชีวิตจะเต็มไปด้วยความอยุติธรรม จื้อโหลวยังคงมีจิตใจเข้มแข็ง กล้าหาญ และมุ่งหวังที่จะสร้างชีวิตของตนเอง เธอมีพรสวรรค์ที่ซ่อนเร้นและชะตาที่พาให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับองค์รัชทายาทมังกร หญิงสาวผู้เคยถูกกดทับกลับค่อย ๆ เปล่งประกายเมื่อได้พบกับความรักและโอกาสที่ไม่เคยมีในชีวิต ช่องทางการติดตาม Weibo : @李沐宸的微博 เรียกว่าทั้งสองคาแรคเตอร์นั้นเคมีดีมาก โดยเมื่อทั้งสองมาพบกัน ชะตาที่ดูเหมือนขัดแย้งกลับเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง จูโมซางเป็นผู้มอบอิสระและการยอมรับที่จื้อโหลวไม่เคยได้รับ ส่วนจื้อโหลวเองก็มอบแสงสว่างและความอบอุ่นที่องค์รัชทายาทผู้โดดเดี่ยวไม่รู้ว่าตนขาดไป ทั้งคู่ค่อย ๆ เติบโตทั้งความรู้สึกและพลังของตน พร้อมร่วมกันท้าทายโชคชะตา ประเพณี และอำนาจที่ต้องการแยกพวกเขาออกจากกัน โดยเพื่อน ๆ สามารถรับชมซีรีส์เรื่อง “ชะตารักประกาศิตมังกร Dragon King's Decree” ได้ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2025 มีทั้งหมด 30 ตอน ออกอากาศทาง WeTV เครดิตภาพหน้าปกโดย @龙王令官微 ภาพหน้าปก1 / ภาพหน้าปก2 / ภาพหน้าปก3 / ภาพหน้าปก4 เครดิตภาพประกอบบทความโดย @龙王令官微 : ภาพที่1 / ภาพที่3 / ภาพที่5 @叶盛佳Loi : ภาพที่2 @李沐宸的微博 : ภาพที่4 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !
nowadaysgirl • 25 พ.ย. 68
อ่าน
Keeree Mantra
ร้านอาหารคีรีมันตรา อยู่ที่กาญจนบุรี ร้านโอบล้อมไปด้วยภูเขาและต้นไม้ สมชื่อคีรีมันตรา การเดินทางนั้นไปง่ายมาก ๆ อยู่ติดถนน 323 ทางไปสังขละบุรี ที่มีทั้งร้านอาหาร และค่าเฟ่ การตกแต่งของทั้งร้านจะใช้โทนสีและวัสดุที่เป็นธรรมชาติ เพื่อให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมชาติ ราคาหลักร้อย วิวหลักร้าน หลายๆเสียงคอนเฟิร์มมาแล้วค่ะ ในก้าวแรกที่เดินเข้าไปในร้าน สบายตา สบายใจเหมาะแก่การมานั่งทานข้าวพักผ่อนที่แท้จริง แอบคิดว่า ราคาต้องแพงแน่ๆเลย แต่จริงๆแล้วไม่เลยค่ะ ราคาเหมาะสมกับการบริการและบรรยากาศมากๆ อลังการจนเพื่อนที่ไปด้วยร้องโอ้วกันเลยทีเดียว ส่วนพนักงานดูแลเป็นอย่างดีเลยค่ะ เอาเมนูมาให้เลือก ซึ่งเมนูนั้นมีหลากหลาย เมนูแนะของที่นี่คือ ซึ่งสั่งอาหารและเครื่องดื่มมาหลายอย่าง มาดูกันเลยค่ะ อาหารทุกอย่างหน้าตาน่าทานมากกกกก รสชาติดีเหมือนหน้าตาเลยค่ะ ทอดมันปลา อันนี้เป็นเซ็ทเลยค่ะ ข้าวมัน ส้มตำ ไก่ย่าง เสียดายมีแต่ตำไทย ร้านนี้ไม่มีปลาร้า แกงจืดเต้าหู้หมูสับของเด็กๆ แกงป่าไก่ไทย อันนี้ถูกปากที่สุด รสชาติสมเป็นแกงป่า เผ็ด หอม น้ำพริกธารา เมนูแนะนำของร้าน ส่วนตัวว่ามันออกหวานไป น้ำมะนาวปั่น และน้ำสตรอว์เบอร์รี่ปั่น เด็กๆชอบมากค่ะ สั่งทุกครั้งที่มา ระหว่างรออาหารเราก็ลงไปเดินเล่น ถ่ายรูป กระเป๋าก็วางไว้ที่โต๊ะ มีพนักงานดูให้ไม่ต้องกังวล ไม่สะพายไปให้เกะกะด้วยค่ะ พอเห็นเราเดินกลับมาที่โต๊ะ อาหารก็พร้อมมาเสริฟ์ทันที ทานเสร็จแล้ว คิดค่าเสียหายมื้อนี้มาแค่ 1,200 กว่าๆ ถือว่าคุ้มมากและถูกมาก รสชาติถูกปาก วิวถูกใจ วิวพาโนรามาสวยจริงๆค่ะ ยามเย็นมาเดินเล่นที่สนามหญ้าอันกว้างขวาง ใครมากาญจนบุรีแวะมาทานร้านนี้ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ -------------------------------------------------------------- ⌛ เวลาเปิด 10.00 - 22.00 น. 📞หมายเลขโทรศัพท์ 034 540 889 Google map : https://goo.gl/maps/fX8K72ABiJX5ioYX8
BeeBoon • 2 ก.พ. 63
อ่าน
มารู้จัก 3 นักแสดงสุดปังจากซีรีส์ เส้นลองจิจูดที่ 180 องศาลากผ่านเรา(180 Degree Longitude)
สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ที่น่ารักทุกคนไหนใครเป็นคอซีรีส์เรื่อง เส้นลองจิจูดที่ 180 องศาลากผ่านเรากันบ้างคะ เชื่อเลยว่าวินาทีนี้เมื่อพูดถึงซีรีส์ที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ก็คงต้องยกให้ผลงานซีรีส์เรื่อง เส้นลองจิจูดที่ 180 องศาลากผ่านเรา ในเรื่องนี้ก็ได้นักแสดงนำสุดหล่ออย่างหนุ่ม ไนกี้ ธนดล หนุ่ม ปอนด์ พลวิชญ์ และสาวสวยอย่างแหม่ม คัลลียา มาร่วมแสดงในเรื่องนี้อีกด้วย แน่นอนว่าความปังของเส้นเรื่องก็มาขยี้ใจให้คอซีรีส์ตั้งตารอกันอย่างทั่วหน้า วันนี้เลยจะถือโอกาสพาเพื่อน ๆ มารู้จัก 3 นักแสดงสุดปังจากซีรีส์ เส้นลองจิจูดที่ 180 องศาลากผ่านเรา(180 Degree Longitude)ไนกี้ ธนดล ป้อมสุวรรณhttps://www.instagram.com/p/ChRuHE1rbvh/?utm_source=ig_web_copy_linkชื่อ : ธนดล ป้อมสุวรรณชื่อเล่น : ไนกี้เกิดเมื่อ : วันที่ 6 เดือน กันยายน พ.ศ.2531การศึกษา : ระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนทวีธาภิเศก ต่อมาในระดับปริญญาตรีจบการศึกษาจากคณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยIG : nike_nitidonhttps://www.instagram.com/p/CgqPtazvv4H/?utm_source=ig_web_copy_linkผลงานในวงการบันเทิงหนุ่มไนกี้เป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่เข้าสู่วงการบันเทิงจากการถ่ายโฆษณา จากนั้นในปี 2556 หนุ่มไนกี้ก็ได้มีผลงานการแสดงเรื่องเรือนเสน่หา ซึ่งผลงานเรื่องนี้เขาได้รับบทเป็น สุข แน่นอนว่าถึงแม้ผลงานการแสดงเรื่องนี้จะเป็นเรื่องแรกในการทำงานของวงการบันเทิง แต่เขากลับสร้างภาพจำในตัวละครสุขให้มีเสน่ห์และเป็นที่จดจำเป็นอย่างมาก ต่อมาในปี 2560 หนุ่มไนกี้ก็ได้มีผลงานการแสดงเรื่อง ราชินีหมอลำ ผลงานเรื่องนี้เขาได้รับบทเป็น รุจน์ อัศวนุกูลกิจ นักแสดงนำของเรื่องที่มีความหล่อแบบตะโกน ผลงานเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่กวาดฐานแฟนคลับได้เยอะมาก ๆ ด้วยเส้นเรื่องที่มีการส่งเสริมตัวละครให้ดูเด่นและคนดูก็อินตามมาก ๆ ก็กลายมาเป็นผลงานที่สนุกสุด ๆ ไปเลยhttps://www.instagram.com/p/CgHUInZPe5f/?utm_source=ig_web_copy_linkบทบาท อินทวุธมาต่อในผลงานการแสดงเรื่องล่าสุดของหนุ่มไนกี้กับผลงานซีรีส์วายเรื่องแรก ในเรื่องนี้เขาได้รับบทเป็น อินทวุธ เพื่อนเก่าแม่ของหนุ่มแวง ตัวละครอินทวุธเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่สะท้อนให้เห็นถึงวิธีคิดและการดำเนินชีวิตที่มีพื้นเรื่องราวในอดีตเข้ามาเกี่ยวโยง หรือเรียกง่าย ๆ ว่ามีเบื้องหลังของชีวิตที่มีความซับซ้อนของเรื่องราว ผลงานเรื่องนี้ก็จะได้เห็นหนุ่มไนกี้อีกหนึ่งบทบาทที่มีความลึกลับและน่าค้นหาสุด ๆ ไม่ได้ให้ความรู้สึกตัวละครที่หวือวา แต่เป็นความเรียบง่ายที่น่าสนใจ ขอจากเรื่องบทบาทที่จะปังแล้ว เรื่องหุ่นคุณอาก็ปังไม่ไหวเหมือนกัน ขออนุญาตกรี๊ดhttps://www.instagram.com/p/Cf6NjZSPQH0/?utm_source=ig_web_copy_linkความประทับใจในเรื่องของความประทับใจก็คงต้องยกให้ความเป็นมืออาชีพของหนุ่มไนกี้ที่ไม่ว่าจะแสดงในบทบาทอะไรก็สามารถสร้างสรรค์ตัวละครออกมาได้น่าชื่นชมสุด ๆ ไปเลย อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องชมเลยก็คือพัฒนาการทางด้านการแสดงที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นบทบาทไหนเขาคนนี้ก็สามารถเข้าถึงในทุก ๆ บทบาท ไม่ว่าจะเป็นพ่อหนุ่มแสนดีหรือจะเป็นคาแรกเตอร์สุด Bad ก็ตาม ทำให้คนดูอินไปตาม ๆ กัน และการมาเล่นซีรีส์เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายใหม่มาก ๆ เลยก็ว่าได้ แน่นอนว่าคนดูอย่างเราก็ตั้งตารอเลยปอนด์ พลวิชญ์ เกตุประภากรhttps://www.instagram.com/p/CgJUIebLc40/?utm_source=ig_web_copy_linkชื่อ : พลวิชญ์ เกตุประภากรชื่อเล่น : ปอนด์เกิดเมื่อ : 25 มีนาคม พ.ศ.2542การศึกษา : ระดับปริญญาตรีคณะวิศวกรรมสารสนเทศและการสื่อสาร ภาคอินเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และระดับปริญญาโทจาก คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาบริหารธุรกิจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย IG : pondponlawithttps://www.instagram.com/p/CgG7mqsvyOu/?utm_source=ig_web_copy_link ผลงานในวงการบันเทิงหนุ่มปอนด์ พลวิชญ์เป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่เข้าสู่วงการบันเทิงจากการแสดงมาก่อน ผลงานซีรีส์เรื่อแรกที่หนุ่มปอนด์แสดงอย่างเรื่อง รักสุดใจนายฉุกเฉิน ในเรื่องนี้เขาได้รับบทเป็น หมอวาฬ น้องหมอสุดหล่อที่จะมาพิชิตใจสาว ๆ และยังเป็นเพื่อนสนิทของแก๊งน้องหมออย่าง หมอฉลาม หมอวาฬ หมอเต่า ขอบอกเลยว่าถึงแม้ผลงานเรื่องนี้หมอวาฬจะไม่ใช่ตัวหนักของเรื่อง แต่ในส่วนของการเป็นนักแสดงของเรื่องทำได้ดีมาก ๆ เป็นบทเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่กินขาด โดนตกกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง ผลงานเรื่องนี้เองที่ทำให้นักเขียนได้รู้จักหนุ่มปอนด์ จากผลงานเรื่องนี้ก็เริ่มที่จะได้เห็นหนุ่มปอนด์ผ่านทางทีวีและช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ มากยิ่งขึ้นhttps://www.instagram.com/p/Cf009TrvA9l/?utm_source=ig_web_copy_linkบทบาท แวงแวง หนุ่มน้อยที่มีความฝันของการเป็นนักเดินทางเที่ยวรอบโลก แต่ว่าเขากลับโดนกำกับเส้นทางโดยแม่ของเขาเอง เด็กหนุ่มผู้ที่อยากจะเผชิญโลกกว้างด้วยตัวของตัวเอง ได้มาพบเจอกับคุณอาเพื่อนเก่าของแม่อย่างหนุ่มอินทวุธ การได้มารู้จักหนุ่มอินทวุธทำให้เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวที่เป็นความลับและเรื่องในอดีตของอินทวุธ ตัวละครแวงเป็นตัวละครที่ถึงแม้จะยังเป็นเด็กน้อย เขากลับมีความเป็นผู้ใหญ่อยู่ในตัวและเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่น่าสนใจ จนอย่างจะดูต่อว่าพัฒนาการของตัวละครแวงจะเบนเส้นเรื่องต่ออย่างไร ขอบอกเลยว่าเป็นผลงานที่น่าติดตามสุด ๆhttps://www.instagram.com/p/CfTt4UKvMCq/?utm_source=ig_web_copy_link ความประทับใจในเรื่องของความประทับใจก็คงจะเป็นในเรื่องของการเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่มีความตั้งใจในการทำงานเป็นอย่างมาก จากผลงานที่ผ่านมาก็จะเห็นได้ถึงความทุ่มเทในการทำงานอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นคนที่น่ารักต่อเพื่อน ๆ และแฟนคลับเป็นที่สุด อย่างผลงานเรื่องล่าสุดนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายครั้งใหม่ของหนุ่มปอนด์ที่จะได้เห็นในบทบาทใหม่ ๆ ทั้งในเรื่องของการแสดงและเส้นเรื่องที่แปลกใหม่ เป็นที่น่าสนใจสุด ๆ ไปเลย ขอขายของนิดหน่อย เพื่อน ๆ อย่าลืมดูผลงานซีรีส์เรื่องนี้ด้วยน้าแหม่ม คัทลียา แมคอินทอชhttps://www.instagram.com/p/CeCxH9xvN2l/?utm_source=ig_web_copy_linkชื่อ : คัทลียา แมคอินทอชชื่อเล่น : แหม่มเกิดเมื่อ : วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ.2515การศึกษา : สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะศิลปศาสตร์ ภาควิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ IG : mcintoshhttps://www.instagram.com/p/Cdivg9bPSH2/?utm_source=ig_web_copy_linkผลงานในวงการบันเทิงเขาคนนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่ดังมาก ๆ เลยทีเดียวโดยจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่วงการบันเทิงมาจากการที่ได้เข้ามาถ่ายแบบลงนิตยสาร จากนั้นก็ได้มีผลงานการแสดงที่สร้างชื่ออย่างเรื่อง เขาวานให้หนูเป็นสายลับ ในบทบาทของ ฐานมาศ มูลใจ ผลงานการแสดงเรื่องนี้ถือว่าดังมาก ๆ ในยุคนั้นเลยก็ว่าได้เพราะได้มีการนำมาสร้างซ้ำในช่วงหลายปีก่อนอีกหนึ่งครั้ง ผลงานการแสดงเรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานการแสดงที่เหล่าแฟนคลับของเขาต้องเทใจให้กับความปังของการแสดงและในบทบาท ต่อมาในเมื่อปี 2561 ก็มีผลงานการแสดงเรื่อง เลือดข้นคนจาง ที่เป็นกระแสโด่งดังมาก ๆ คนดูกันทั่วบ้านทั่วเมืองในเรื่องนี้ก็ได้รับบทเป็น ภัสสร สุริยไพโรจน์ เรียกได้ว่าสมบทบาทที่สุดเลยก็ว่าได้ในผลงานเรื่องนี้https://www.instagram.com/p/CdkzAeav1Hf/?utm_source=ig_web_copy_linkบทบาท ศศิวิมลเขาคนนี้เป็นเพื่อนของอินทวุธและเป็นแม่ของแวง ศศิวิมลเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ดูแล้วมีความลึกลับน่าสนใจ อีกทั้งยังตีแผ่มุมมองของคนเป็นแม่ได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเข้ามากำกับชีวิตของลูกที่ต้องอยู่ในเส้นทางที่ตัวเองตีหรือขีดไว้เท่านั้น แม้ว่าบางครั้งมันอาจจะเกินกว่าเหตุไปบ้างบางครั้ง แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนแล้วเกิดมาจากความรักและหวังว่าลูกจะได้มีความสุข ในเรื่องของการแสดงก็คงต้องวางใจเขาคนนี้เลยเพราะด้วยความที่เป็นรุ่นใหญ่มากฝีมือ ผลงานก็ออกมาปังสุด ๆ ไปเลยhttps://www.instagram.com/p/CckRoz-POE8/?utm_source=ig_web_copy_linkความประทับใจในเรื่องของความประทับใจก็คงจะต้องยกให้ในเรื่องของความเป็นมืออาชีพในการทำงานอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นบทบาทไหนก็ตามเขาคนนี้ก็ใส่สุดใจไปเลยก็ว่าได้ อีกทั้งเขาคนนี้ยังเป็นอีกหนึ่งต้นแบบของการเป็นนักแสดงอีกด้วย ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีต่อกี่ปี เขาคนนี้ก็ยังยืนหนึ่งในเรื่องของการแสดงและในเรื่องของความสวย นักเขียนเองได้มีโอกาสเห็นรูปในช่วงที่ยังเป็นวัยรุ่นก็ยังคงสวยแบบดังปัจจุบันเลยทีเดียว เอาเป็นว่าสุดท้ายนี้อย่าลืมไปตามชมผลงานซีรีส์เรื่องนี้ด้วยน้าอ้างอิงข้อมูล:entertainment:1อ้างอิงข้อมูล:entertainment:2อ้างอิงข้อมูล:entertainment:3ภาพประกอบ:nike_nitidon:1/2/3/4ภาพประกอบ:pondponlawit:5/6/7/8ภาพประกอบ:mcintosh:9/10/11/12ภาพปก:TrueID:1เกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ๆ App TrueID โหลดฟรี!
วันหนึ่งวันนั้น • 17 ส.ค. 65
อ่าน
Regretting You รอยรัก ปมร้าว
เรื่องย่อ Regretting You รอยรัก ปมร้าว ชื่อเรื่อง Regretting You รอยรัก ปมร้าวประเภท โรแมนติก / ดรามานำแสดงโดย แอลลิสัน วิลเลียมส์, แมคเคนนา เกรซ, เดฟ ฟรันโก, เมสัน เธมส์กำกับโดย จอช บูนน์กำหนดฉาย 23 ตุลาคม 2025ความยาว 117 นาที อ่านรีวิวหนังได้ที่นี่
เรื่องย่อหนัง • 18 ต.ค. 68
อ่าน
27 หุ้น Program Trading 2 ม.ค. COM7-EA-VGI สูงสุด ZIGA ตาม
#โปรแกรมเทรดดิ้ง #ทันหุ้น - ข้อมูลสถิติ Program Trading รายวัน วันที่ 2 ม.ค.67 จากมูลค่าการซื้อขายหุ้นรวม 45,844.28 ล้านบาท แบ่งเป็น Non Program Trading มีมูลค่า 29,616.50 ล้านบาท หรือ 65% และ Program Trading มูลค่า 16,227.79 ล้านบาท หรือ 35% หุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายด้วยโปรแกรมสูงที่สุด คือ COM7 มีการใช้ Program Trading 277.90 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 33.95% ของมูลค่าการซื้อขาย 819.39 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.70 บาท หรือเพิ่มขึ้น 11.34% ตามมาด้วย EA มีการใช้ Program Trading 249.48 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 37.90% ของมูลค่าการซื้อขาย 658.36 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 46.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท หรือเพิ่มขึ้น 5.08% และ VGI มีการใช้ Program Trading 137.15 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 25.13% ของมูลค่าการซื้อขาย 545.69 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 2.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.27 บาท หรือเพิ่มขึ้น 13.99% ตามมาด้วย ZIGA มีการใช้ Program Trading 112.84 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 15.79% ของมูลค่าการซื้อขาย 714.80 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 3.38 บาท เพิ่มขึ้น 0.66 บาท หรือเพิ่มขึ้น 24.26% สำหรับข้อมูลหุ้นที่ซื้อขายด้วยโปรแกรมเทรดดิ้งวันที่ 2 ม.ค.67 ที่เปิดเผยข้อมูลมีจำนวน 27 หลักทรัพย์ ประกอบด้วย EA, COM7, JMT, BE8, VGI, AAV, ONEE, TTA, DITTO, SUSCO, AAI, RABBIT, BYD, KEX, COCOCO, ZIGA, TGE, PSP, TEAMG, ALPHAX, NAM, TH, MVP, BROOK, XPG, GTV และ 24CS รวมมูลค่าซื้อขายด้วยโปรแกรมเทรดดิ้งของ 27 หลักทรัพย์ 1,508 ล้านบาท
ทันหุ้น • 3 ม.ค. 67
อ่าน
รวม 10 หนังฝรั่ง Rom-Com ในดวงใจ ที่คนรักหนังอารมณ์ดีไม่ควรพลาด
สวัสดีค่ะทุกคน ช่วงกักตัวอยู่บ้านที่ผ่านมา เราหาหนังเก่าๆดูเยอะมากเพื่อแก้เหงาค่ะ แล้วเรามีหนังหลายเรื่องมากที่ประทับใจและไม่อยากเก็บไว้คนเดียว555 ในวันนี้เราจะมาแนะนำหนังฝรั่ง Rom-Com (หนังรัก-คอมมาดี้) ในดวงใจของเราค่ะ ที่บางเรื่องเราดูซ้ำถึง 2 รอบทีเดียว เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะเรื่องที่ 1) She’s the Man: แอบแมน มาปิ๊งแมน (2006)IMDb: 6.3/10 She’s the Man เป็นหนังฝรั่งเรื่องแรกที่เราดูเพราะอยากฝึกทักษะการฟังภาษาอังกฤษค่ะ แล้วช่วงกักตัวก็กลับมาดูอีกครั้งเพราะคิดถึง เป็นเรื่องของการที่นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายค่ะ โดยนางเอก (ไวโอล่า) ชื่นชอบการเตะฟุตบอลมากแต่ทีมฟุตบอลหญิงของโรงเรียนเธอดันถูกยุบ เธอจึงปลอมตัวเป็นพี่ชายฝาแฝดของตัวเองในระหว่างพี่ชายหนีเที่ยวเข้าไปอยู่ในทีมฟุตบอลชายของอีกโรงเรียนหนึ่งเพื่อแข่งกับทีมชายโรงเรียนตัวเองซะเลย แต่เรื่องวุ่นๆเริ่มขึ้นเมื่อเธอดันไปตกหลุมรักเพื่อนร่วมห้องซะงั้น มาเอาใจช่วยเธอกันค่ะว่าสุดท้ายแล้วความรักครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร เป็นเรื่องที่เบาสมองสุดๆค่ะ Rom-Com มากๆ ยิ้มได้ตลอดเรื่องแน่นอนค่ะเรื่องที่ 2) Mean girl: ก๊วนสาวซ่าส์ วีนซะไม่มี (2004)IMDb: 7.0/10 Mean girl เป็นหนังที่ดังมากๆอีกเรื่องค่ะ คนชอบดูหนังไฮสคูลไม่ควรพลาดและน่าจะคุ้นกับชื่อหนังเรื่องนี้แน่นอน เป็นเรื่องของนางเอก (เคดี้) เด็กสาวโฮมสคูลอายุ 16 ปีที่ย้ายมาจากแอฟริกา แล้วเข้ามาเรียนในโรงเรียนครั้งแรก เธอต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคมใหม่ๆ และความสนุกมันอยู่ที่นางเอกไปเข้าร่วมกับกลุ่มที่ป๊อบมากๆของโรงเรียนค่ะ เธอจะปรับตัวและรับมือกับสังคมในโรงเรียนยังไงนั่นคือความสนุกของเรื่องนี้ จริงๆมี Mean Girl 2 ด้วยนะคะ สนุกไม่แพ้กันค่ะเรื่องที่ 3) 13 going on 30: ต๊กกะใจ...ตื่นขึ้นมา 30! (2004)IMDb: 6.2/10 13 going on 30 เป็นหนังอีกเรื่องที่ชอบสุดๆเลยละค่ะ ดูไป 2-3 รอบเลย เพราะหนังน่ารักมาก เป็นเรื่องที่นางเอก (เจนน่า) ที่ขณะนี้อายุ 13 ปีแต่เธอดันไม่อยากเป็นเด็กอีกต่อไป เธออยากโตเป็นสาวสวยที่มีชีวิตเพอร์เฟ็ค มีผู้ชายเท่ๆอยู่เคียงข้าง ไม่ใช่ "แมท" เพื่อนสนิทของเธอที่ดูยังไงก็ไม่ใช่ผู้ชายในแบบที่เธอต้องการ แล้วสิ่งที่เธอหวังดันเกิดขึ้นจริง เธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับพบว่าเธอกลายเป็นสาววัย 30 ปีไปซะแล้ว เธอมีชีวิตที่เพอร์เฟ็คสุดๆ มีแฟนที่หล่อและฮอตมาก แต่เธอกลับรู้สึกว่าชีวิตเธอไม่ได้มีความสุขเหมือนที่เธอฝันเอาไว้เลย แมทได้หายไปจากชีวิตเธอ ความสัมพันธ์ของเธอกับครอบครัวก็แย่ลง แล้วเธอจะทำยังไงกับชีวิตของเธอดี ลองหามาดูกันนะคะเรื่องที่ 4) The Princess Diaries: บันทึกรักเจ้าหญิงมือใหม่ (2001)IMDb: 6.3/10 The Princess Diaries เป็นอีกหนังที่น่ารัก และมีด้วยกันถึง 2 ภาค แถมมีข่าวว่าภาค 3 กำลังมาเร็วๆนี้ค่ะ เป็นเรื่องราวของนางเอก (มีอา) เด็กสาววัย15 ปีธรรมดาๆคนนึง ที่ชีวิตเธอต้องพลิกผันไปตลอดกาลเมื่อเธอได้รับจดหมายเชิญจากคุณย่าให้เธอไปหาที่ประเทศเจโนเวียเพื่อรับตำแหน่งเจ้าหญิงรัชทายาทองค์ต่อไป ความสนุกในภาคนี้คือการที่นางเอกถูกฝึกมารยาทต่างๆเพื่อให้พร้อมแก่การเป็นเจ้าหญิงรัชทายาทนี่แหละค่ะเรื่องที่ 5) 27 Dresses: เพื่อนเจ้าสาว 27 วิวาห์ (2008)IMDb: 6.1/10 27 Dresses เป็นหนังที่ฟีลกู้ดมากๆค่ะ เป็นเรื่องของนางเอก (เจน) ผู้หลงไหลในงานแต่งงาน และเป็นคนเอาใจใส่คนอื่นเสมอ เธอจึงมีเพื่อนเยอะและเพื่อนส่วนใหญ่อยากให้เธอเป็นเพื่อนเจ้าสาว ซึ่งเธอได้เป็นเพื่อนเจ้าสาวถึง 27 งาน นั่นเท่ากับว่าเธอมีชุดเพื่อนเจ้าสาวถึง 27 ชุด เธอเก็บทุกชุดเอาไว้และหวังว่าสักวันจะเป็นวันของเธอ และคอลเลคชั่นชุดเพื่อนเจ้าสาวของเธอก็ถูกรับรู้โดย เควิน นักเขียนคอลัมน์ที่ไม่เชื่อในเรื่องงานแต่งงานสักนิด เค้าเลยหวังจะเขียนเรื่องราวเพื่อนเจ้าสาว 27 ชุดของเจนเพื่อให้เค้าแจ้งเกิดในแวดวงนักเขียนคอลัมน์ แต่นั่นเท่ากับว่าเค้ากำลังจะหักหลังเจน เรื่องราวจะจบลงอย่างไร แนะนำให้หาหนังมาดูกันค่ะเรื่องที่ 6) Never Been Kissed: จูบแรกเมื่อไหร่จะมา (1999)IMDb: 6.1/10 Never Been Kissed เป็นหนังที่ค่อนข้างเก่าหน่อยนะคะ แต่ว่าอบอุ่นใจและน่ารักมากค่ะ เป็นเรื่องของนางเอก (โจซี่) นักข่าววัย 25 ปีที่ไม่เคยมีจูบมาก่อนเลย เธอปลอมตัวเข้าไปเป็นเด็กนักเรียนอายุ 16 ปีเพื่อทำข่าวเกี่ยวกับชีวิตเด็กมัธยม แต่เธอดันแอบชอบคุณครูซะงั้น เอาไงดีละ555 จะบอกความจริงก็ไม่ได้เพราะงานก็ยังต้องทำให้สำเร็จ เธอจะเลือกหน้าที่หรือหัวใจดี ลองไปหาดูกันได้ค่ะ แนะนำมากๆเรื่องที่ 7) What's Your Number?: เธอจ๋า..มีแฟนกี่คนจ๊ะ (2011)IMDb: 6.1/10 What's Your Number? เป็นหนัง Rom-Com อีกเรื่องที่พ่อกัปตันอเมริกาของเรานั้นหล่อมากค่ะ555 เป็นเรื่องของนางเอก (แอลลี) ได้ไปอ่านบทความที่อ้างว่าสถิติของผู้หญิงที่เคยมีคู่รักมามากกว่า 20 คนจะไม่พบรักแท้ ซึ่งเธอลองนับดูแล้ว แฟนเก่าเธอก็เกือบๆ 20 คนเลยค่ะ5555 เธอเลยคิดว่าเธอควรจะกลับไปตามหาแฟนเก่าดีไหม เผื่อจะมีสักคนที่เป็นรักแท้ของเธอ หรือ เธอจะเดินหน้าไปต่อกับพ่อกัปตันอเมริกา หนุ่มห้องตรงข้ามกันดีนะ555เรื่องที่ 8) What a Girl Wants: ปรารถนา..ของสาวหัวใจใสใส (2003)IMDb: 5.8/10 What a Girl Wants เป็นหนังที่เราไม่ค่อยเห็นแนะนำในกระทู้ต่างๆเลยค่ะ แต่เรากลับชอบมากเลย ด้วยความว่าชอบนางเอกของเรื่อง (Amanda Bynes) เป็นการส่วนตัวด้วยค่ะ เป็นหนังที่นางเอก (แดฟนี) เธออาศัยอยู่กับแม่ของเธอเพียง 2 คน ด้วยชีวิตที่สมบูรณ์ครบถ้วนดี แต่เธอดันรู้สึกว่าชีวิตของเธอขาดหายเพราะเธออยากพบกับพ่อของเธอ ที่ต้องแยกทางกับแม่ของเธอเพียงเพราะความไม่เหมาะสมทางสังคม เธอจึงบินจากอเมริกาไปลอนดอนเพื่อให้เจอพ่อที่เป็นถึงนักการเมืองดัง การมาของแดฟนี แน่นอนว่าต้องก่อให้เกิดความวุ่นวายต่อพ่อของเธอแน่นอน มาร่วมลุ้นกับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก และความรักของแดฟนีกับหนุ่มนักดนตรีที่จะเกิดขึ้นกันค่ะเรื่องที่ 9) Love Wrecked: แอบกั๊ก รักติดเกาะ (2005)IMDb: 4.8/10 Love Wrecked เป็นหนังของนางเอกคนเดิมที่เราชอบอีกแล้วค่ะ555 แต่หนังเค้าน่ารักจริงๆนะคะ เป็นเรื่องของนางเอก (เจนนี่) ได้ไปติดเกาะกับเจสันนักร้องในดวงใจของเธอค่ะ เธอดีใจมากเพราะนี่แหละคือโอกาสใกล้ชิดละ แต่แล้วเธอก็พบว่าเกาะที่เธอไปติดอยู่ใกล้กับโรงแรมนิดเดียวเอง แต่เธอก็เนียนค่ะ ไม่ยอมบอกเจสันหรอก ใครจะปล่อยโอกาสแบบนี้ให้หลุดมือ จริงไหมคะ555 เรื่องราววุ่นๆป่วนๆของการเนียนของนางเอกก็ได้เกิดขึ้นโดยได้รับความช่วยเหลือจากไรอันเพื่อนซี้ที่คิดไม่ซื่อของเธอค่ะ5555เรื่องที่ 10) Legally Blonde: สาวบลอนด์หัวใจดี๊ด๊า (2001)IMDb: 6.3/10 Legally Blonde หนังเรื่องสุดท้ายที่จะมาแนะนำกันในวันนี้แล้วค่ะ หนังเรื่องนี้ก็มี 2 ภาคค่ะ หนังน่ารักมากๆเช่นกันค่ะ เป็นเรื่องราวของนางเอก (แอล) สาวชุดสีชมพูผมบลอนด์ที่ถูกมองว่าเธอดีแต่สวยอย่างเดียวจนโดนแฟนหนุ่มของเธอทิ้งไปเพราะเค้าสอบติดโรงเรียนกฎหมายฮาวาร์ดและอยากมีคู่ควงที่เหมาะสม นางเอกเลยเสียใจมากและตั้งใจว่าเธอจะพิสูจน์ตัวเองโดยพยายามสอบเข้าฮาร์วาร์ดให้ได้ แต่ทุกอย่างไม่ได้ง่ายอย่างนั่นแน่นอนค่ะ มารหัวใจเยอะ คนขวางก็แยะ แต่นางเอกเริ่ดๆเชิดๆมาก เลิฟมากค่ะ ครบแล้วค่ะ 10 หนังฝรั่ง Rom-Com ในดวงใจของเรา รอบนี้เราเน้นรวบรวมหนังเก่าที่ไม่เคยรู้สึกเก่าเลยสำหรับเรามานะคะ ไว้มีโอกาสหน้าจะรวบรวมหนังที่ใหม่ขึ้นมาอีกนิดมาแชร์กันใหม่ค่ะ หวังว่าจะมีหนังสักเรื่องที่ดึงดูดคนรักหนังหรืออยากหาหนังดูตอนเหงาๆ เรารับรองว่าสนุกทุกเรื่องค่ะขอขอบคุณภาพปก : pixabay / Pic 1 : She’s the Man/ Pic 2 : Mean girl/ Pic 3 : 13 going on 30/ Pic 4 : The Princess Diaries/ Pic 5 : 27 Dresses/ Pic 6 : Never Been Kissed/ Pic 7 : What's Your Number?/ Pic 8 : What a Girl Wants/ Pic 9 : Love Wrecked/ Pic 10 : Legally Blonde
mamamax • 23 มิ.ย. 63
ดูเพิ่มเติม